LH เปิด “โรงแรม-ห้าง”ใหม่ กระแสตอบรับดี-หนุนหุ้นวิ่งแรง
หลังโควิดคลี่คลายภาคธุรกิจเริ่มกลับมาลงทุนขยายธุรกิจอีกครั้ง หลังเงียบเหงามานานตั้งแต่เกิดโรคระบาด โดยขณะนี้ผู้ประกอบการหลายๆ ราย เร่งเปิดโครงการใหม่รับกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
โดยกลุ่มบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ เจ้าของโครงการยอดนิยม เช่น ลดาวัลย์, นันทวัน, มัณฑนา, พฤกษ์ลดา ฯลฯ รวมถึงโครงการแนวสูง เช่น เดอะ รูม, เดอะ คีย์ ฯลฯ ขณะนี้เร่งเปิดโครงการใหม่รองรับดีมานด์ที่กำลังกลับมา
นอกจากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังมีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และธุรกิจโรงแรม ซึ่งในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีการเปิดตัวหลายโครงการใหม่เสียงเรียกฮือฮาต่อเนื่อง
ประเดิมด้วยโรงแรม "Grande Center Point Space Pattaya" ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “โลกอวกาศ” ดูหน้าตื่นตาตื่นใจ เหมือนได้ไปพักผ่อนนอกโลก ด้วยมูลค่าลงทุน 3,300 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอยรวม 80,000 ตร.ม. โดยโรงแรมมีทั้งหมด 32 ชั้น 490 ห้องพัก
นอกจากนี้ ยังมีจุดขายที่สวนน้ำธีมอวกาศขนาดใหญ่พื้นที่มากกว่า 12,000 ตร.ม. เหมาะกับทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยสปาจาก Let’s Relax Onsen & Spa บนพื้นที่ 3,000 ตร.ม. พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน ทั้งฟิตเนส, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ศูนย์ประชุม ฯลฯ
ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ถูกพูดถึงอย่างมากตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีการตกแต่งอย่างสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเช็คอิน และเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่ากระแสตอบรับดีมากๆ โดยผู้บริหารระบุว่ามีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90%
และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ฤกษ์ดีในการเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ "Terminal 21 พระราม 3" มูลค่า 6,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่รวมกว่า 140,000 ตร.ม. โดยตัวห้างสูง 7 ชั้น มีพื้นที่ปล่อยเช่ารวม 40,000 ตร.ม. ซึ่งมีอัตราการเช่าแล้ว 97%
โดยพระราม 3 ถือเป็นสาขาที่ 4 ของศูนย์การค้า Terminal 21 หลังเปิดสาขาแรกที่อโศก เมื่อปี 2554 ก่อนขยายไปสู่ต่างจังหวัดที่นครราชสีมาและพัทยา โดยสาขาพระราม 3 ยังคงเอกลักษณ์การตกแต่งที่สวยงาม แต่ละชั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนมาเที่ยวต่างประเทศ
ซึ่งหลังเปิดตัวได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการคึกคักโดยเฉพาะในช่วงวันหยุด เพราะสถานที่สวยงาม มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย ร้านค้าต่างๆ มีให้เลือกกิน เลือกช้อป ครบครัน ซึ่งผู้บริหารคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 50,000 ราย ใกล้เคียงกับที่อโศก
ถือว่าในช่วงเริ่มต้นทั้ง 2 โครงการนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง สะท้อนจากยอดผู้ใช้บริการที่คึกคักตั้งแต่วันแรก เพราะว่ามีคอนเซ็ปต์ไม่เหมือนใคร ช่วยสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง
ขณะที่ทำเลที่ตั้งเดินทางง่าย อย่างโรงแรมอยู่ใจกลางเมืองพัทยา มองเห็นวิวทะเลชัดเจน ส่วนศูนย์การค้าวิวอลังการไม่แพ้กัน มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกค้าสามารถออกไปเดินเล่นพักผ่อนได้
ด้านบล.กรุงศรี คาดกำไรของ LH จะเติบโตแกร่งเฉลี่ย 17% ในอีก 3 ปีข้างหน้า มาจากยอดโอนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ขณะที่รายได้ค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังเปิดโรงแรมใหม่ที่พัทยาและศูนย์การค้าที่พระราม 3
นอกจากนี้ ยังมีการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์ ซึ่งเป็กอีกหนึ่งแหล่งรายได้สำคัญตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน LH มีสินทรัพย์ในประเทศ 3 แห่ง และในต่างประเทศ 4 แห่งที่สร้างรายได้ประจำ (Recuring Income) ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ได้อีกอย่างน้อย 7 ปีข้างหน้า ซึ่งยังไม่รวมโรงแรมใหม่ 3 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า จุดเด่นของ LH คือความแข็งแกร่งของแบรนด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจแนวราบ ประเมินว่าจะเป็น 1 ในบริษัทที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการอนุมัติให้ต่างชาติที่เข้าเกณฑ์สามารถซื้อบ้านและที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ และยังเป็นหุ้นที่ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอราว 6-7% ต่อปี