มหากาพย์ 5 ปี หุ้น EARTH ลอยแพ ”เจ้าหนี้ - รายย่อย” 18,000 ราย

มหากาพย์ 5 ปี หุ้น EARTH ลอยแพ ”เจ้าหนี้ - รายย่อย” 18,000 ราย

ถือว่าไม่ผิดคาดเลยทีเดียวที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้กระทำผิด 14 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีสร้างราคาหุ้น และราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) สดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565

ต้องบอกว่าเรื่องราวเป็นมหากาพย์ EARTH นอกจากจะเรื่องหุ้นแล้ว EARTH ยังมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้สิน และเรื่องอยู่ที่ศาลล้มละลายกลาง ก่อนจะมาถึงจุดนี้ EARTH เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ เมื่อปี 2553 ด้วยการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท แอดวานซ์ เพนท์ (APC)

EARTH ทำธุรกิจหลักเทรดดิ้งถ่านหินในจีน และอินโดนีเซีย ในยุครุ่งเรือง มาร์เก็ตแคป เคยขึ้นไปสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ผลประกอบการอยู่บนเส้นทางการกำไรที่ดี โดยปี 2556 กำไรกว่า 1,110 ล้านบาท ปี 2557 กำไร 1,042 ล้านบาท ปี 2558 กำไร 1,026 ล้านบาท ปี 2559 กำไร 871 ล้านบาท ก่อนที่ไตรมาส 1 ปี 2560 จะพลิกขาดทุนราว 68 ล้านบาท

EARTH จึงเป็นหุ้นขวัญใจมหาชน มีนักลงทุนรายย่อยกว่า 18,000 ราย ที่ถือหุ้น EARTH ยังไม่นับรวมผู้ถือหุ้นกู้ EARTH อีกหลายพันราย

แต่ทุกอย่างกลับมาพัง เพราะ 2 เรื่อง 1. ราคาหุ้น และ 2. เรื่องของหนี้สิน

เรื่องราคาหุ้น จุดเริ่มต้น เมื่อวันที่ 11 และ 12 พ.ค. 2560 ราคาหุ้น EARTH ร่วงลง 2 ฟลอร์ติด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ผู้บริหารก็ออกมายืนยันว่า ธุรกิจยังไม่มีปัญหา

ก่อนที่ผู้บริหารจะออกมายอมรับภายหลังว่า ที่ราคาหุ้นฟลอร์ต่อเนื่องนั้น มาจากการถูกบังคับขายจากโบรกเกอร์ เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่เอาหุ้นไปค้ำประกันเงินกู้กับโบรกเกอร์ เพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่น และยังมีการทำ Block trade ด้วย ทำให้เมื่อราคาหุ้นตกลงต่ำกว่าหลักประกัน ก็ถูกแรงบังคับขายทุกราคา

ปัญหาต่อมา เรื่องหนี้สิน หลังจากผ่านเหตุการณ์หุ้น EARTH ตกไม่กี่สัปดาห์ วันที่ 7 มิ.ย. 2560 EARTH ประกาศผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E 40 ล้านบาท และบอกเป็นนัยๆ ว่า งวดต่อไปก็อาจจะคืนไม่ได้เช่นกัน สร้างความวิตกให้กลุ่มเจ้าหนี้ของ EARTH ทั้งสถาบันการเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ เจ้าหนี้การค้า ทั้งหลายจะได้รับชำระหนี้หรือไม่

ต้องบอกว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2560 EARTH มีหนี้สินรวมกันราว 2.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตั๋วแลกเงินราว 2,380 ล้านบาท ทรัสต์ รีซีทราว 5,300 ล้านบาท แพ็กกิ้งเครดิตหรือสินเชื่อนำเข้า-ส่งออกราว 4,790 ล้านบาท เงินกู้ธนาคาร 4,210 ล้านบาท และ หุ้นกู้ 5,475 ล้านบาท

ที่น่าตกใจคือ เป็นหนี้ที่ต้องชำระภายในปี 2560 เกือบๆ 15,000 ล้านบาท

และก็ไม่ได้ผิดคาด เมื่อ 15 มิ.ย.2560 EARTH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ได้ผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงิน และหุ้นกู้จะก็กำลังถูกเรียกคืนเงินต้น ซึ่งจะกระทบสภาพคล่องของบริษัทอย่างหนัก

การแจ้งตลาดดังกล่าว ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้น SP หุ้น EARTH หลังไม่สามารถชี้แจงรายการหนี้ต่างๆ ได้ ตามมาด้วย 23 มิ.ย.2560 ก.ล.ต. สั่งให้ EARTH จัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ หรือ special audit โดยต้องเป็นผู้สอบบัญชีจากบริษัท big4 เพื่อตรวจสอบรายการเงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้า และเงินจองสิทธิในการซื้อสินค้าว่ามีจริงหรือไม่ และเปิดเผยผลการตรวจสอบภายใน 30 วัน แต่ EARTH ก็ขอผ่อนผันต่อไปเรื่อยๆ

สุดท้าย 24 ก.ค. 2560 EARTH ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยอ้างว่ามีหนี้มากกว่าทรัพย์สิน โดยแจ้งต่อศาลว่า มีหนี้สินกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ถูกทางการสั่งให้ชี้แจง เพราะมากกว่าที่ปรากฏในงบการเงิน ซึ่งบริษัทอ้างว่าเกิดจากคู่ค้ายื่นฟ้องบริษัท

EARTH อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลล้มละลายอยู่หลายปี จนในที่สุดวันที่ 20 เม.ย.2565 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ขั้นเด็ดขาด เนื่องจากบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว และมีเจ้าหนี้จำนวนมาก

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์