"เราเที่ยวด้วยกัน"มาแล้ว หุ้นไหนได้ประโยชน์มากที่สุด?
หลังเลื่อนแล้วเลื่อนอีก รอกันมาหลายรอบ ในที่สุด ครม. เคาะมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” วงเงิน 2,016 ล้านบาท ออกมาเป็นที่เรียบร้อย หวังกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ
แต่ด้วยงบประมาณ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ที่มีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เริ่มคึกคักมากขึ้นแล้ว ทำให้มาตรการรอบนี้อาจไม่ได้จัดหนักจัดเต็มเท่ากับครั้งที่ผ่านๆ มา โดยจะมอบสิทธิให้ทั้งหมด 560,000 สิทธิ ลดลงจากเฟส 1 จำนวน 5 ล้านสิทธิ, เฟส 2 ที่ 1 ล้านสิทธิ, เฟส 3 ที่ 2 ล้านสิทธิ และเฟส 4 ที่ 1.5 ล้านสิทธิ
โดยรัฐจะช่วยออกค่าที่พักให้เท่าเดิม 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน แต่จำนวนสิทธิลดลงเหลือเพียงคนละ 5 ห้อง จากเดิม 10 ห้อง พร้อมด้วยคูปองสำหรับค่าอาหารและท่องเที่ยวอีก 600 บาท/วัน โดยจะเริ่มคิกออฟโครงการตั้งแต่ ก.พ.-ก.ย. นี้
ขณะที่ส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินนั้นถูกตัดออกไป เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าตลอดโครงการจะมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 112,000 คน และก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก 12,539 ล้านบาท
อีกมาตรการที่ถูกเคาะออกมาพร้อมกัน คือ โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ วงเงินรวม 1,930 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเน้นไปที่เมืองรอง ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วทั้ง 2 มาตรการจะใช้เม็ดเงินเกือบ 4 พันล้านบาท
ที่ผ่านมา “เราเที่ยวด้วยกัน” ถือเป็นอีกโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้ใจประชาชนไปเต็มๆ โดยเฉพาะขาเที่ยว ดึงดูดให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อชดเชยรายได้จากตลาดต่างชาติที่หดหายไปตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
โดยปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวในประเทศไม่น้อยกว่า 250 ล้านคน/ครั้ง และมีรายได้รวมประมาณ 9 แสนล้านบาท
ขณะที่ตลาดต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้คึกคักไม่แพ้กัน ตั้งเป้านักท่องเที่ยวรวม 25 ล้านคน รับอานิสงส์หลังจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาดตั้งแต่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา และล่าสุดมีข่าวดีหลังรัฐบาลจีนไฟเขียวให้บริษัททัวร์สามารถขายทัวร์พาคนจีนออกมาเที่ยวต่างประเทศได้แล้ว นำร่องก่อน 20 ประเทศ หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยของเราด้วย เริ่ม 6 ก.พ. นี้
ปีนี้จะปีแห่งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวด้วย อย่างกลุ่มโรงแรมจะได้รับอานิสงส์เต็มๆ จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ส่วนกลุ่มสายการบินรอบนี้ถูกตัดสิทธิออกไป แต่จะได้อานิสงส์จากตลาดต่างชาติเข้ามาชดเชย จะเห็นว่าตอนนี้แต่ละสายการบินเร่งกลับมาเปิดไฟลท์บินกันคึกคักเพื่อเตรียมรับดีมานด์ที่อัดอั้นมานาน โดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย
ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มท่องเที่ยว หลังครม. อนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 แต่จำนวนสิทธิลดลงจากครั้งก่อนๆ พอสมควร อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมภายในประเทศ เพราะยังอยู่ในช่วงไฮซีซัน
ซึ่งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมากไปน้อย เรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยจากมากไปน้อย คือ
- ERW (88%)
- CENTEL (80%)
- MINT (15%)
- SHR (5%)
โดยมีหุ้น Top Pick ได้แก่ ERW แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท และ CENTEL แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท เนื่องจากจะได้รับ sentiment เชิงบวกจากทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีมากที่สุด
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า มาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นเดินทางท่องเที่ยว สนามบิน ศูนย์การค้า และโรงแรม โดยเน้นโรงแรมในประเทศ เรียงลำดับจากโรงแรมที่ได้รับประโยชน์จากมากไปน้อย ได้แก่ ERW, CENTEL และ MINT ส่วนหุ้นอื่นๆ เช่น AOT, AAV, BA, CPN, SPA