CBG เปิดศึก | ออฟเรคคอร์ด
และแล้วตามคาดหลังจากบรรดาผู้นำ เครื่องดื่มชูกำลัง ทนไม่ไหวการอั้นต้นทุนการผลิตจำยอมขึ้นราคาขายที่ตรึงมานานหลายทศวรรษที่ 10 บาท เป็น 12 บาท
๐๐๐CBG เปิดศึก
และแล้วตามคาด หลังจากบรรดาผู้นำ เครื่องดื่มชูกำลัง ทนไม่ไหวการอั้นต้นทุนการผลิตจำยอมขึ้นราคาขายที่ตรึงมานานหลายทศวรรษที่ 10 บาท เป็น 12 บาท
ทั้ง M-150 ของ OSP ที่นำร่องไปก่อนใครเพื่อน และเจอส่วนการตลาดหายไปทันทีทำเอาปรับกระบวนกันแทบไม่ทัน และตามมาด้วยปีนี้ “กระทิงแดง” กลุ่มอยู่วิทยา ขึ้นตาม 12 บาทเช่นกัน แม้จะทิ้งช่วงกันนานเกือบปี
ส่วน “คาราบาวแดง” ของ CBG เฉือนเนื้อ “คงราคาขาย” ที่ 10 บาท !! แถมยังอัดโปรโมชั่น “ลุยแจก” ทุกเดือนเข้าไปอีกผ่านคอนเทนต์ “สาวบาวแดง”
กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ที่ชนะใจผู้บริโภคมาแล้วทำให้นายใหญ่ “สเถียร เศรษฐสิทธิ์ ” เดินหน้าขอรุกฆาตตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไม่เหมือนใคร
รอเบียดขึ้นเป็น ผู้นำ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังสิ้นปีนี้ ...เพราะช่วงนี้ เครื่องร้อน ของจริงตั้งแต่ลุยธุรกิจน้ำเมา และดันร้านโชห่วยเข้าตลาดหุ้นมีแต่งานใหญ่ทั้งนั้น
๐๐๐
ตลาดหุ้นไทยยืนบวกได้เกือบทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยมีหุ้นแบงก์นำทีมขึ้นมา ตามด้วยกลุ่ม “เจมาร์ท” ที่คัมแบ็ค พร้อมใจกลับมาบวกยกกลุ่ม หลังผู้บริหารออกมาเคลียร์ข่าวเรื่องโดน Margin Call
โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,657.69 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.36% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,660.18 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,650.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,391.41 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขาย 2,958.25 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,335.47 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 368.30 ล้านบาท และนักลงทุนรายซื้อ 1,254.48 ล้านบาท
๐๐๐
หุ้นบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) กลับมายืนที่ 16 บาทอีกครั้ง เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.91% หลังงบปี 2565 แม้กำไรจะลดลงเหลือ 7,138 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 8,012 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน Red Lobster ที่เพิ่มขึ้น และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
แต่ในภาพรวมดูแล้วธุรกิจยังสดใส หลังยอดขายทั่วโลกทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ 1.56 แสนล้านบาท แถมใจดีแจกปันผลงวดครึ่งปีหลังให้อีกหุ้นละ 0.44 บาท โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 3 มี.ค. นี้ และจ่ายจริง 27 เม.ย.
๐๐๐
ส่วนหุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง บมจ.คาราบาว กรุ๊ป (CBG) ราคาไหลลงมาทดสอบแนวรับ 100 บาท ปิดการซื้อขายที่ 102.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.38% หลังงบไตรมาส 4 ปี 2565 ออกมาน่าผิดหวัง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด กำไรสุทธิอยู่ที่ 409 ล้านบาท ลดลง 33% YoY และ 14% QoQ จากผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
ล่าสุด ประกาศขอตรึงราคาไว้เท่าเดิมขวดละ 10 บาท หลังคู่แข่งขยับราคาขึ้นไปหมดแล้ว รอดูว่าจะชิงส่วนแบ่งมาได้มากน้อยแค่ไหน?
๐๐๐
ด้านหุ้นแม่ลูก “ศรีตรัง” แม้ผลประกอบการจะดิ่งฮวบ! จากราคาถุงมือยางที่ปรับตัว ลดลง หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิดคลี่คลาย แต่ราคาหุ้นยังควงคู่บวกกันอยู่ ดูแล้วน่าจะซื้อเพื่อดักรอรับปันผลมากกว่า
โดยบมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) จัดหนักให้หุ้นละ 1 บาท โดยจะขึ้น XD 19 เม.ย. นี้ และจะจ่ายจริง 8 พ.ค. ส่วนหุ้นลูก บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) จัดให้หุ้นละ 0.25 บาท เตรียมขึ้น XD 19 เม.ย. นี้ และจ่ายจริง 8 พ.ค. เช่นกัน
๐๐๐
รอติดตามดัชนี FTSE เตรียมประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออก รอบใหม่ มีผล 17 มี.ค. นี้ โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่ารอบนี้ หุ้นบมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) จะได้เลื่อนชั้นจาก Mid Cap. มาเป็น Large Cap. รอดูจะแม่นหรือไม่? แต่หากเกิดขึ้นจริงช่วยเติมเสน่ห์หนุนหุ้น AWC เนื้อหอมขึ้นอีกเยอะแน่นอน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์