CPALL-MAKRO ควงคู่ รับสงกรานต์ “กระตุ้น” รายได้
บรรยากาศตลาดหุ้นไทยเข้าใกล้วันหยุดยาว "เทศกาลสงกรานต์" ทำให้มูลค่าการซื้อขายซบเซา และนักลงทุนได้ชะลอการลงทุนไปบางส่วน ซึ่งสวนทางกับ "บรรยากาศการใช้จ่าย " เดินทางกลับภูมินำเนา การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความคึกคัก
ด้วยปี 2566 ถือว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยฟื้นและไม่มีปัญหาจากโควิด-19 ทำให้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินช่วงสงกรานต์จะมีการจับจ่ายสะพัด 125,000 ล้านบาท โดยยอดเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 กว่าล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าคิดเป็นผลบวกต่อ GDP ปีนี้ 0.5-0.7% จากกที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัว 3-4% จากปี 2565
ขณะที่ด้านการใช้งานเงินในช่วงเทศกาลดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเม.ย. 2566 ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ โดยได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ พิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงมาตรการภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
โดยประมาณการว่า ธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 25,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการในปี 2565 อยู่ที่ 67% เนื่องจากในปีนี้ มีช่วงวันหยุดยาวตามประกาศของภาครัฐและเอกชนต่อเนื่องกับวันหยุดสุดสัปดาห์ อีกทั้งยังมีกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องปัจจัยบวกดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน มี.ค 2566 +2.83 % (YoY) ชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน นับจากเดือนม.ค 2565 ลดแรงกดดันของต้นทุนที่สูงของ ผู้ประกอบการ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 3 เดือน ม.ค.-มี.ค. 2566 อยู่ที่ราว 6 ล้านคน อยู่ในกรอบคาดการณ์ทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวราว 25 ล้านคน
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดในปี 2566 แนวโน้มของกลุ่มค้าปลีกยังมีโอกาศเติบโตดีได้ปัจจัยหนุนของกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น คือ การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากประเทศจีน มีเม็ดเงินระหว่างการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้งครม.ชุดใหม่อาจมีนโยบายต่างๆเพื่อช่วยสนับสนุนกำลังซื้อ
การลงทุนที่เข้ากับปัจจัยดังกล่าว CPALL และ MAKRO ได้ประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากการมีสาขากว่า 13,838 สาขาขณะเดียวกันมีแผนขยายสาขาเพิ่ม700 แห่งต่อปี และได้แรงหนุนจากประกอบการ MAKRO จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทำเป็นปกติหนุนการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า HoReCa และยอดขายในธุรกิจ Hypermarket ของ LOTUS ที่ค่อยๆฟื้นตัว
สำหรับ SSSG ครึ่งปีแรก 2566 คาดทำได้ดีเป็นบวกต่อเนื่อง มีแรงหนุนที่ดีจากมาตรการรัฐ “ช้อปดีมีคืน” รวมถึงมีช่วงเทศกาลตรุษจีนและ “วันเด็ก” การกลับมาของนักท่องเที่ยว และการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นปกติมากขึ้นสะท้อนไปยัง SSSG ของ CPALL +7-9% (YoY) MAKRO เป็นบวกราว11-13% (YoY) และ LOTUS +2-3% (YoY)
บล.กรุงศรี พัฒนสิน "กลุ่มค้าปลีก" ยังมีโมเมนตัมบวก ทั้งเข้าช่วงจับจ่ายรับสงกรานต์ และการเลือกตั้งใกล้เข้ามา และคาดตัวเลข CCI ไทยจะเป็นเชิงบวก
โดยมีหุ้น MARKO คาดการณ์กำไรปี 2566 โตแรง 1.1 หมื่นล้านบาท (+47% y-y ) จากฐานต่ำปีก่อน และการเปิดเมือง – การท่องเที่ยว จะช่วยหนุนการบริโภคฟื้นแรง รวมถึง แผนบริษัทเชิงรุกทั้งค้าส่งและค้าปลีก เปิดสาขาใหม่ Format ใหญ่ เพิ่ม 18/4 แห่งตามลำดับ โดยระยะสั้น โมเมนตัมยังบวก
ด้านตัวเลข SSSG ม.ค.-ก.พ. ปรับขึ้น +10-12% y-y และคาดกำไรไตรมาส 1 ปี 2566 จะปรับเพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนได้ ซึ่งหุ้นซื้อขายบน PER 23F ที่ 37เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 32x คาดหุ้นมีโอกาสเข้า MSCI รอบนี้ คาดประกาศต้นเดือน พ.ค. และมีผลปลายพ.ค .