BTS เผยปี 65/66 กำไรลดลงอยู่ที่ 1.83 พันล้าน พร้อมจ่ายปันผล 0.16 บาท
BTS เผยกำไรสุทธิปี 65/66 (31 มี.ค.66) ที่ 1,836 ล้านบาท ลดลง 52% หลังรายได้รับเหมาลด ค่าใช้จ่ายกลุ่ม MIX และ MATCH พุ่ง แต่จ่ายปันผล 0.16 บาท XD 7 ส.ค. นี้ ฟากปีนี้ (66/67) ลั่นผลงานดีขึ้นรับรัฐบาลใหม่ - เปิดรถไฟฟ้า 2 เส้น - ลุ้นเคลียร์หนี้กับกทม.
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการงวดปี 65/66 (สิ้นสุด 31 มี.ค.66) มีกำไรสุทธิ 1,836.48 ล้านบาท ลดลง 52% จากงวดเดียวกันปี 64/65 ที่มีกำไร 3,825.58 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 24,139 ล้านบาท ลดลง 22.6%จากปีก่อน ตามการให้บริการรับเหมาที่ลดลง 9,227 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในช่วงท้ายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง
อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ลดลงถูกชดเชยด้วย รายได้จากการบริการและการขายที่เพิ่มขึ้น 1,498 ล้านบาท ตามการเติบโตของธุรกิจ MIX และการบริการเดินรถและซ่อมบำรุง ภายใต้ธุรกิจ MOVE (ธุรกิจระบบขนส่งมวลชนทางราง) และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจำนวน 1,097 ล้านบาท
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานที่เกิดขึ้นเป็นประจำก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Recurring EBITDA) จำนวน 7,669 ล้านบาท ลดลง 5.5% หรือ 447 ล้านบาท จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงของธุรกิจ MIX และ MATCH จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารซึ่งเป็นผลจากการขยายธุรกิจและการเข้าควบรวมบริษัทย่อยต่างๆ ของวีจีไอ นอกจากนี้ การบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจ MATCH ปรับตัวลง
ขณะที่ คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปี 65/66 จำนวน 0.16 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 7 ส.ค.66 วันที่จ่ายปันผล 25 ส.ค. 66
สำหรับปี 2566/67 ทาง BTS ประเมินว่า เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับบริษัทฯ ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง และแนวโน้มที่ดีขึ้นในการแก้ปัญหาหนี้คงค้างของกทม.
โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเตรียมเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะสามารถรับรู้รายได้ค่าโดยสารจากทั้งสองโครงการตามอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปีที่ได้ลงนามไปแล้ว นอกจากนี้ NBM2 และ EBM2 (บริษัทย่อยของบีทีเอส กรุ๊ป) ยังมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าทั้งสองสาย
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถบันทึกรายได้ O&M จำนวน 6.9 พันล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 5.2 พันล้านบาท(เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน) และรายได้จากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย อีกราว 2.9 พันล้านบาท
ส่วนธุรกิจ MIX คาดการณ์รายได้ ในช่วง 6,000 – 6,500 ล้านบาท และอัตรากาไรสุทธิที่มากกว่า 10% ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและจำนวนเที่ยวเดินทางจะมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กับรายได้ของธุรกิจ MIX เนื่องจากอัตราการใช้สื่อ (occupancy rate) ของวีจีไอมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น