จับตาสัปดาห์หน้า ลุ้นผลโหวตนายกฯ แนะเข้าสะสมหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
จับตาสัปดาห์หน้า ลุ้นผลโหวตนายกฯ แนะเข้าสะสมหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ Underperform ตลาดมากเกินไปนับตั้งแต่เลือกตั้ง 14 พ.ค.66
บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศหลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร ให้ความเห็นในงานวันเกิดทักษิณว่า จะกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ถ้าอิงมุมมองก่อนหน้านี้ที่ทักษิณจะกลับ เมื่อการเมืองนิ่งแล้วหมายความว่าภายในต้นเดือนส.ค. หรือสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปทั้งนายกฯ และตำแหน่งใน ครม. แล้วเช่นกัน รวมถึงกรณีของศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม 3 ส.ค.66 เพื่อพิจารณาประเด็นโหวตนายกฯ ซ้ำชื่อเดิมจากผู้ตรวจการแผ่นดิน
ทั้งนี้ ผลเป็นไปได้ 3 กรณี คือ 1.ไม่รับคำร้อง 2. รับคำร้องแต่ไม่ต้องชะลอโหวตนายกฯ และ 3.รับคำร้อง และให้ชะลอการโหวตนายกฯ ซึ่งคาดว่าจะรับคำร้องแต่ไม่ต้องชะลอการโหวตนายกฯ เพราะเป็นเรื่องของสภาฯ ที่ประเด็นคำร้องไม่ควรมีผลต่อการโหวตนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น การประชุมสภาฯ จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 4-10 ส.ค. ซึ่ง Timeline ที่มีความชัดเจนมากขึ้นจะช่วยจำกัดภาวะ Overhang ทางการเมือง และ Downside ให้กับ SET INDEX แนะนำสะสมกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ Underperform ตลาดมากเกินไปนับตั้งแต่เลือกตั้ง 14 พ.ค.66
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ความคืบหน้าประเด็นการเมืองในหน้าสัปดาห์ถัดไปสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า 3 ส.ค.66 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ กรณีที่รัฐสภามีการใช้ข้อบังคับการประชุมที่ 41 ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้มีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ Candidate จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 ว่าเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ สำหรับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น คาดออกมาได้ 3 แนวทาง ดังนี้
• ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง - ประธานรัฐสภาอาจกำหนดวันโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป อยู่ในช่วง 9 -10 ส.ค.66
• ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ไม่มีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ – คาดว่ารัฐสภา น่าจะรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ทำให้วันโหวตนายกฯ
ถูกเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย
• ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน - ผลลัพธ์เหมือนแนวทางที่ 2
ไม่ว่าจะเกิดกรณีไหนก็ตาม คาดศาลใช้เวลาพิจารณาไม่น่าเกิน 1 เดือน ดังนั้นคาดเห็นรัฐบาลชุดใหม่ช่วง ส.ค.- ก.ย.66 โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ Scenario ที่สามารถ
เกิดขึ้นได้ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีดังนี้
• พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้ง 8 พรรค และรอจน สว.หมดอายุในเดือนพ.ค.67 (เกิดสุญญากาศทางการเมืองราว 10 เดือน)
• พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร์
แนวโน้มของสถานการณ์ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี แต่ที่ฝ่ายวิจัยฯ กังวลคือ กรณีแรก เนื่องจาก จะทำให้เกิดสุญญากาศของรัฐบาล และสุญญากาศของงบประมาณ โดยปกติแล้วงบประมาณรายจ่ายปี 2567จะถูกเบิกจ่ายช่วง 1 ต.ค.66 – 30 ก.ย.67 ซึ่งหากเกิดสุญญากาศจนถึง พ.ค.67 จะทำให้ช่วงเวลาที่จะใช้พิจารณางบประมาณสั้นลง และใช้ประโยชน์ได้ไม่เท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ประเมินภาพการเมืองในช่วงสั้น มีโอกาสเห็นสัญญาณบวกหากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง และนำไปสู่กระบวนการโหวตนายกฯ ตามปกติ ซึ่งต้องดูการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่าจะมีพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index 1,520 - 1,540 จุด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์