นายกสภาวิชาชีพบัญชี ชี้ เร่งสอบสวน ผู้สอบบัญชีSTARK หากทำผิดลงโทษตามเกณฑ์
นายกสภาวิชาชีพบัญชี ชี้ เร่งสอบสวน ผู้สอบบัญชีSTARK หากทำผิดลงโทษตามเกณฑ์ พร้อมเดินหน้าแก้ พ.ร.บ.ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี เพื่อให้มีอำนาจเข้าดูแลคุณภาพงาน-จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพมากขึ้น
นายวินิจ ศิลามงคล นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชาชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากที่มีผู้ร้องเรียน ผู้สอบบัญชีของบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK)นั้น ซึ่งคณะกรรมการจรรยาบรรณ ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อสอบสวนผู้สอบบัญชีของSTARKแล้ว แต่ด้วยกรณีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 5-6 หน่วยงาน ทั้งผู้สอบบัญชี สำนักงานบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย หน่วยงานกำกับ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งต้องใช้เวลาในการสืบสวน สอบสวน
"จากที่คณะกรรมการจรรยาบรรณเพิ่งได้รับเรื่องร้องเรียนนั้น ทำให้การตรวจสอบของเราเพิ่งเริ่ม แต่ทาง ก.ล.ต.ได้มีการสอบสวนมาสักระยะแล้วนั้น ทางคณะตรวจสอบฯได้มีการนำข้อมูลจากที่ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบไปแล้วมาดูและตรวจสอบต่อไป เราก็จะสอบสวนคู่กันไปกับทางก.ล.ต."
การทบทวนกฎหมายที่สภาวิชาชีพไดรับการดูแลที่มีผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ใช้มานานเกือบ20ปี มีหลายเรื่องที่ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตลาดทภนคุณภาพของผู้ประกอบวิชาชีพสอบบัฐชี น่าจะมีการปับกฎหมายบางเรื่องเพื่อเปิดโอกาสให้สภาวิชาชีพได้เข้าไปดูแลคุณภาพงาน และจรรยบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพมากขึ้น
เพื่อให้กฎมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพมีความทันสมัยมากขึ้น สามารถเปิดโอกาสให้สภาพวิชาชีพไปดูแลวิชาชีพได้มากขึ้น เป็นตัวหนึ่งที่สภาพวิชาชีพชุมใหม่อยู่ในนโยบายปับเรื่องนี้ให้มีคุณภาพและต่อเนื่อง
กระบวนการทำงานของสภาพวิชาชีพ บทบาทและความรับผิดชอบ เราต้องทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น ใกล้เชิดหน่วยงานต่างๆมากขึ้า กับสำนักงานก.ล.ต.กระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้หากพบว่าผู้สอบบัญชีมีการทำผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีฯ ทางคณะกรรมการจรรยาบรรณก็จะมีการดำเนินการลงโทษตามเกณฑ์ ซึ่งบทลงโทษนั้น มีตั้งแต่การพักใบอนุญาต การเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนกรอบเวลาในการดำเนินการตรวจสอบนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะ ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของทางคณะกรรมการจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ ซึ่งทางสภาวิชาชีพบัญชีฯไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งทางสภาวิชาชีพบัญชีฯจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ที่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งนายกสภาวิชาชีพบัญชีบัญชีฯนั้น ก็เดินหน้าทบทวนพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี เพราะ ใช้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว มีหลายเรื่องที่อาจจำเป็นต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน คุณภาพของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี น่าจะต้องปรับกฎหมายบางเรื่องให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเพื่อเปิดโอกาสให้สภาวิชาชีพบัญชีเข้าไปดูแลคุณภาพงาน และจรรณยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมากขึ้น
รวมถึงทำงานกับหน่วยงานใกล้ชิดกับก.ล.ต.และกระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้ดูแลผู้ทำบัญชี เพื่อให้เกิดการกำกับดูแลใกล้ชิดมากขึ้น การโปรโมทคุณภาพและจรรยาบรรณให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นแผนงานของคณะกรรมการของสภาวิชาชีพฯชุดใหม่นี้ที่จะมีการดำเนินงาน
สำหรับบทบาทหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชีบัญชีฯนั้น มีบทความหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายกำหนด ในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี โดยเฉพาะเรื่ององค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมีความรู้ เข้าใจและมีมาตรฐานการทำงานเป็นที่ยอมรับระดับสากล
สำหรับความรับผิดชอบของสภาวิชาชีพบัญชีฯโดยมีหน้าที่ในการการออกมาตรฐานการทำงานของผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี ซึ่งมาตรฐานการทำงานของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่ใช้อยู่เป็นมาตรฐานระดับสากล
"อยากให้ทุกท่านมั่นใจว่า กระบวนการกำหนดมาตรฐานที่สภาวิชาชีพบัญชีบัญชีฯทำ ในการออกมาตรฐานการทำงานของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่ใช้กันนั้นเป็นมาตรฐานสากล ที่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องใช้ ส่วนในเรื่องจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี เราได้มีการกำหนดเรื่องจรรยาบรรณ ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องปฏิบัติเช่นกัน"