EA จ่อขาย'โทเคนดิจิทัล'ไตรมาส1/67 มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต50%

EA จ่อขาย'โทเคนดิจิทัล'ไตรมาส1/67  มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต50%

EA เตรียมออกเสนอขาย"โทเคนดิจิทัล"ภายในไตรมาส1/67 มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต 50% อยู่ที่ 4.13 หมื่นล้าน -กำไรขั้นต้นนิวไฮ แตะ "หมื่นล้าน" เผย สัปดาห์หน้า เปิดขายหุ้นกู้ฯ ชี้ให้ยีลด์สูงที่สุดที่บริษัทจะมีการออกเสนอขายแล้ว มองเป็นโอกาสของนักลงทุน

นายวสุ กลมเกลี้ยง Executive Vice President บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)หรือ  EA เปิดเผยว่า  บริษัทมีแผนออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลภายในไตรมาส 1 ปี 2567 แก่นักลงทุนทั่วไป โดยจะเป็นลักษณะการดิจิทัลไลซ์สินทรัพย์บางส่วน หรือดิจิทัลไลซ์การเดินรถของไทยสมายล์บัส เป็นรูปโทเคนดิจิทัล 

ทั้งนี้การออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลนั้น จะส่งผลดีต่องบการเงินของEA  และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการลงทุนสินทรัพย์ใหม่ๆ และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้ามามีส่วนร่วมในอีวีอีโคซิสเต็มอินฟราสตรัคเจอร์ 

สำหรับผลดำเนินงานปีนี้มั่นใจว่ารายได้ตามเป้าโต 50% อยู่ที่ 41,300 ล้านบาท จากปี2565 อยู่ที่ 27,547 ล้านบาท และคาดว่ากำไรขั้นต้น(Gross Profit)นิวไฮอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท  ซึ่งปีก่อนอยู่ที่  7,961 ล้านบาท เพราะ บริษัทมีรับรู้รายได้แบตเตอรี่และอีวีเข้ามามากขึ้น 

ส่วนลงทุนปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ โดยใช้งบลงทุนไปแล้วประมาณ 3,000 - 4,000 ล้านบาท 

นายวสุ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้กับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) จำนวน 3 รุ่น มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 10,000 ล้านบาท (รวมหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม)  วันที่ 26-28 ก.ย.2566 โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1  มีอายุ 1 ปี  มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.20 ต่อปี  

หุ้นกู้ชุดที่ 2  มีอายุ 3 ปี จำนวนไม่เกิน 3,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.70ต่อปี  หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 2,800 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.10 ต่อปี เงินที่ได้จากการเสนอขายส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้ระยะสั้น 

ทั้งนี้การเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่บริษัทออกเสนอขายและการเสนอขายครั้งนี้ ยีลด์ถือว่าสูงสุดที่บริษัทจะออกเสนอขายหุ้นกู้ เพราะหากผลดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามแผน  อันดับเรทติ้งของบริษัทจะสูงขึ้นแล้วยีลด์ที่ออกเสนอขายหุ้นกู้ในอนาคตก็จะน้อยลง