SCL-ETL ไม่รอด ! ปิดเทรดเช้าราคาดิ่งต่ำกว่าราคาไอพีโอ

              วันนี้ (1 พ.ย.2566) พบว่าตลาดหุ้นไทยมี "2 หุ้นไอพีโอใหม่" เข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมกัน นั่นคือ บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL และ บมจ. ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL

              โดย บมจ.เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท หรือ SCL เป็นผู้จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 167,000 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (Genuine Parts) เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA,HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET และเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ทดแทน (Replacement Parts) ที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO

              หุ้น SCL เปิดเทรดในตลาด mai วันแรกที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 3.90% จากราคาไอพีโอ 1.54 บาท แต่ปิดตลาดภาคเช้าราคาหุ้น “ยืนไม่ไหว” มาปิดตลาดเช้าที่ 1.45 บาท ลดลง 0.09 บาท หรือ -584%  โดยทำราคาสูงสุดเช้าที่ 1.66 บาท และต่ำสุดที่ 1.40 บาท

ขณะที่ บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Transportation Carrier) ระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และจีน ที่มีการเชื่อมต่อพรมแดนทางถนนและรางรถไฟ

หุ้น ETL เปิดเทรดในตลาด SET วันแรกที่ 1.35 บาท ลดลง 0.33 บาท หรือ -19.64% จากราคาไอพีโอ 1.68 บาท โดยปรับตัวลงตั้งแต่เปิดเทรด ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดเช้าที่ 1.36 บาท ลดลง 0.32 บาท หรือ -19.05%

ทั้งนี้ ภายหลังปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ปรากฏรายชื่อ “นักลงทุนรายใหญ่” เข้าลงทุนซื้อหุ้น IPO ของ ETL เข้าพอร์ต ได้แก่

๐ นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 7 จำนวน 5,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.81%

๐ นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คอมเซเว่น (COM7) เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 8 จำนวน 4,113,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.66%

๐ นายวัชระ แก้วสว่าง (เสี่ยป๋อง) เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 10 จำนวน 3,475,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.56%