หุ้นไทยดิ่งต่อ 16 จุด วิตกเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ. ผลงาน บจ.ไตรมาส 3 แย่ JMT ร่วง 16%

เมื่อประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบีี้ยนโยบายอีกครั้ง หลังจากที่เงินเฟ้อสหรัฐกดไม่ลงยังคงพุ่งสูงขึ้น ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวพุ่งขึ้นมาทันที ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทย ปรับตัวลงมาแรงเปิดตลาดภาคเช้านี้ (10 พ.ย.66) ดัชนี SET อยู่ที่ 1,388.80 จุด หรือปรับตัวลง 16.17 จุด หรือ 1.15% มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 7.77 พันล้านบาท  

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ประสบกับแรงกดดันหลังจากที่ประธานเฟดออกมาพูดในทำนองว่า ยังอยากให้เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% แต่ปัจจุบันการดำเนินนโยบายที่ผ่านมายังไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำให้เงินเฟ้อกลับมาที่ 2% ได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ที่ระดับ 3.7% จึงมีการส่งสัญญาณว่า จะกลับมาเข้มงวดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงมาค่อนข้างมากเช่นกัน ทั้งนี้ แม้ว่าหุ้นไทยจะปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก แต่ ณ ขณะนีี้ยังไม่ถึงกับทำ NEW LOW

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นกดดันหุ้นไทย เรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหุ้นไทยไตรมาส 3/66 ออกมาค่อนข้างไม่ดี โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่ออกมาดูไม่ค่อยสดใส เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก บวกกับยอดไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก จึงเป็นการสะท้อนว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/66 ส่วนใหญ่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นการสะท้อนว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่ได้มีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ชัดเจน หรือแข็งแกร่งมาก 

ขณะเดียววันนี้ (10 พ.ย.66) หุ้น JMT ปรับตัวลงมาแรงกว่า 16.79% หรือลดลง 5.50 บาท ราคาอยู่ที่ 27.2 5% สาเหตุที่หุ้น JMT ปรับตัวร่วงลงมาแรง แม้ว่าที่ผลประกอบการจะออกมาไม่ได้แย่มาก กำไรประมาณกำไร 466 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อนมีกำไร 456 ล้านบาท แต่กำไรที่ออกมาไม่ได้มีความสอดคล้องกับ Valuation มาก เนื่องจาก Valuation ของ  JMT เทรดอยู่ค่อนข้างแพง บวกกับกำไรที่ปรับตัวลดลงมา 15% หากเทียบ QoQ ส่งผลให้ตลาดมักไม่ค่อยชอบ 

“JMT มีผลขาดทุนด้านเครดิต หรือ ECL มีการปรับตัวขึ้นมา จึงทำให้กำไรลดลงมาเมื่อเทียบ QoQ ซึ่งมองว่า ตลาดไม่ค่อยจะชอบมากนัก แนะนำนักลงทุนว่า ช่วงนี้อยากเพิ่งรีบเข้าไปลงทุน รอดูถึงความชัดเจนอีกครั้งก่อน”