เปิดงบการเงิน 5 หุ้น กลุ่ม JMART ไตรมาส 3 กำไรหด ผลงานต่ำคาด ราคาร่วงยับ

เปิดงบการเงิน 5 หุ้น กลุ่ม JMART ไตรมาส 3 กำไรหด ผลงานต่ำคาด ราคาร่วงยับ

ผลการดำเนินงาน 5 หุ้น กลุ่ม JMART งวดไตรมาส 3/66 SINGER กำไรสุทธิลดลงมากสุดกว่า 95% ด้าน SGC กำไรสุทธิลดลง 94.86% ขณะที่ JMT กำไรเพิ่มแค่ 2.4% นักวิเคราะห์ เผย ผลงานต่ำกว่าคาด ระบุเตรียมปรับราคาเป้าหมายใหม่

เข้าสู่ช่วงเทศกาลประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 และงวด 9 เดือนปี 66 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทของนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ในกลุ่มเจมาร์ท ประกอบไปด้วย SINGER , JMT ,JMART,J และ SGC ได้รายงานผลการดำเนินงานออกครบถ้วนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ผลงานยัง “ติดลบ” ไม่เข้าตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ราคาปิดของหุ้นกลุ่ม JMART วันนี้ (10 ต.ค.66) ร่วงหนักยกแผง 

JMART ราคาปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.30 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -17.74%

JMT ราคาปิดที่ 27.00 บาท ลดลง 5.75 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -17.56%

SINGER ราคาปิดที่ 9.90 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -10.81%

SGC ราคาปิดที่ 1.29 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -8.12%

J ราคาปิดที่ 2.68 บาท ลดลง 0.08 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -2.90%

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 ของกลุ่ม JMT ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม JMT มีการจัดเก็บเงินสดไม่ดีมากนัก รวมถึงต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรต่ำกว่าคาด  

ขณะเดียวกัน หุ้น JMART มี JMT มาเป็นตัวช่วยหนุนในการทำกำไร ทำให้ราคาหุ้น JMT กับ JMART ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง ส่วนหุ้น SINGER และ SGC ที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก ขาดทุนค่อนข้างมาก ขณะที่ J เป็นหุ้นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ถูกกว่าดูดีที่สุดในกลุ่ม หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นในแต่ละเดือน  

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้เพิ่มเติมว่า ราคาหุ้น JMT ปรับตัวลงมาแรงแม้ว่าที่ผลประกอบการจะออกมาไม่ได้แย่มาก กำไรประมาณกำไร 466 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อนมีกำไร 456 ล้านบาท แต่กำไรที่ออกมาไม่ได้มีความสอดคล้องกับ Valuation มาก เนื่องจาก Valuation ของ JMT เทรดอยู่ค่อนข้างแพง บวกกับกำไรที่ปรับตัวลดลงมา 15% หากเทียบ QoQ ส่งผลให้ตลาดมักไม่ค่อยชอบ 

“JMT มีผลขาดทุนด้านเครดิต หรือ ECL มีการปรับตัวขึ้นมา จึงทำให้กำไรลดลงมาเมื่อเทียบ QoQ ซึ่งมองว่า ตลาดไม่ค่อยจะชอบมากนัก แนะนำนักลงทุนว่า ช่วงนี้อย่าเพิ่งรีบเข้าไปลงทุน รอดูถึงความชัดเจนอีกครั้งก่อน”

สำหรับหุ้นกลุ่ม JMT ผลการประกอบการไตรมาส 3/66 ออกมาครบทั้ง 5 หลักทรัพย์ฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผลงานไม่ค่อยจะสดใสมากนัก 

เปิดงบการเงิน 5 หุ้น กลุ่ม JMART ไตรมาส 3 กำไรหด ผลงานต่ำคาด ราคาร่วงยับ

1.บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER 

ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันจากปีก่อนที่ 261 ล้านบาท หรือลดลง 95% ส่วนผลงาน 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ 3,227 ล้านบาท โดยกำไรลดลง 3,969 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวม 3 เดือนและ 9 เดือน ลดลง 661 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.5% และ 1,617 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.7% ตามลำดับ

ขณะที่รายได้จากการขาย 3 เดือนและ 9 เดือน ลดลง 543 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78.0% และ 1,722 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75.2% ตามลำดับ สาเหตุที่รายได้จากการขายลดลงมาจากการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลง จำนวนพนักงานขายแฟรนไชส์ลดลง เนื่องจากบริษัทย่อยมีการเปลี่ยนนโยบายในการปล่อยสินเชื่อให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมคุณภาพหนี้ นอกจากนี้งวด 9 เดือนบริษัทมีรายได้จากการขายแบบเช่าซื้อลดลง 1,860 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.7% เมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 

2.บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC 

ผลงานไตรมาส 3/2566 บริษัททำกำไรสุทธิได้ 8.23 ล้านบาท ลดลง 151.88 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94.86% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ 160.11 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้รวมจากการดําเนินงานที่ชะลอตัวจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืม 143.86 ล้านบาท 

ส่วน 9 เดือน บริษัทขาดทุน 2,278.65 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ  467.02 ล้านบาท ซึ่งการขาดทุนดังกล่าวมาจากผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่เกิดขึ้นจากการสิ้นสุดของโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและยังไม่มีความสามารถในการจ่ายชำระคืนหนี้ ทั้งนี้บริษัทตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น 1,585.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


3.บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART 

ผลงานไตรมาส 3/66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 292.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 563.5 ล้านบาท หรือลดลง ลดลง 48.01% ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 66 ขาดทุนสุทธิ 613.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,278.02 ล้านบาท

ส่วนรายได้รวมจากการขาย และบริการ 3,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 3,435.8 ล้านบาท สาเหตุมาจากต้นทุนขาย และบริการ 2,391.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 2,340.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนค่าเช่า และต้นทุนการให้บริการ

นอกจากนี้ยังมีขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 57.8 ล้านบาท ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 59.1 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร 708 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.5 ล้านบาท หรือ 18.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


4.บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT

ผลประกอบการไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 466.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 455.5 ล้านบาท บริษัทมีรายได้รวม 1,307.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 207.1 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 18.8% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้ 1,141.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.3% และรายได้จากการรับประกันภัย 78.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 13.5%

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,470.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.08% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,255.80 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ย และกำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า ขณะที่รายได้ 9 เดือน ปี 66 อยู่ที่ 3,707.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 440.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.5%

อย่างไรก็ตาม บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กำไรสุทธิ Q3/66 ของ JMT ที่ 446 ล้านบาท -15% q-q, +2% y-y ต่ำกว่าตลาดคาด 7% โดยมีปัจจัยกดดันจาก ECL ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตั้งสำรองสำหรับพอร์ตหนี้ที่มีหลักประกัน รวมถึงการลดลงของรายได้จากหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดแล้ว โดยรวม 9 เดือนแรก cash collection เพิ่มขึ้นเป็น 4.06 พันล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่บริษัทคาด 8-9 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก เท่ากับ 1.47 พันล้านบาท +17% y-y ต่ำกว่าเป้าที่บริษัทกำหนดไว้ 25-30% y-y และที่เราคาด 27% y-y มีแนวโน้มปรับลดประมาณการปี 66-67 ลงราว 7-10% พร้อมทบทวนราคาเป้าหมายใหม่


5.บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J

ผลการดำเนินงานของบริษัท ประจำไตรมาส 3/66 มีผลกำไรสุทธิ 129.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 617.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากำไรสุทธิอยู่ที่ 18 ล้านบาท และสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท งวด 9 เดือน ปี 66 มีกำไรสุทธิ 134.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 74.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากำไรสุทธิอยู่ที่ 77.0 ล้านบาท 

โดยสาเหตุที่บริษัทมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัท มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ JAS Green Village บางบัวทอง ในช่วงไตรมาส 3/66

ขณะที่ภาพรวมรายได้รวมมีการเติบโตที่ดี ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 133.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 4.5% และงวด 9 เดือน ปี 66 มีรายได้รวม 403.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 5.4% มีสาเหตุหลักจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ JAS Green Village คู้บอน และ JAS Urban ศรีนครินทร์ เป็นหลัก

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์