'ภากร' แถลงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้ จับตาความชัดเจนกรณี short sell

'ภากร' แถลงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้ จับตาความชัดเจนกรณี short sell

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมแถลงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้ (15 พ.ย.) นักวิเคราะห์ ชี้ จับตาความชัดเจนกรณี short sell

วันนี้(15 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมแถลง “Update สถานการณ์ตลาด“  โดย ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในบ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.00 น.

หลังจากวานนี้(14พ.ย.) นักลงทุนรายย่อยรวมพลัง ประกาศพร้อมใจกันนัดหยุดเทรดหุ้นทุกโบรก 20 พ.ย. นี้ เซ่นวิกฤตความเชื่อมั่น หลังจากปัญหา short sell ในตลาดหุ้นไทย "ไม่มีความชัดเจน"

ข้อความดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง – ก.ล.ต. และ ตลท. หารือร่วมกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน  จนมาเคาะเบื้องต้นจัดตั้งกองทุน TESG   วงเงินลงทุนไม่เกิน 100,000 บาท/ราย  ระยะเวลา 8 ปี  เริ่มภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในฐานปี 2566 ได้ทันที  พร้อมเสนอ ครม. พิจารณาในสัปดาห์หน้า

         "สวนทางกับเสียงตอบรับในตลาดหุ้น" วัดจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวติดลบอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี SET ผลตอบแทน -16 %  ติดอันดับผลตอบแทนน้อยที่สุดของตลาดหุ้นโลก

 

โบรกชี้ จับตาความชัดเจนกรณี short sell 

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ลิเบอเรเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตลาดตั้งคำถามเรื่องปัญหาการ Short sell  ที่มีการตั้งคำถามถึงเครื่องมือผ่าน High-Frequency Trading (HFT) และ Robot Trade  ที่เอาเปรียบรายย่อย แต่คำตอบของ ตลท.และก.ล.ต. พยายามกล่าวถึงเหตุการณ์ในตลาดเป็น"ปกติ"

เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยและตลาด เริ่มเห็นสัญญาณ "ผิดปกติ" จากการ HFT ท่ามกลางตลาดขาลงแบบนี้ ซึ่งถ้าหากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จะทำให้นักลงทุนรายย่อยหายไป รวมทั้งกระทบถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นไทยด้วย

ทำให้นักลงทุนรอฟังความชัดเจนจาก ตลท. ในการประชุมวันนี้ในกรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่านักลงทุนจะเชื่อไปแล้วว่าว่าตลาดมีความผิดปกติ

 รวมทั้งแวดวงโบรกเกอร์เองมองว่า เป็นปรากฎการณ์ที่รายย่อยแสดงพลังงานที่ชัดเจนและ "ทนไม่ไหว" กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลาดหุ้นไทยขณะนี้ว่า “ธุรกรรม Short sell   ปกติ”  ทั้งที่เมื่อแยกตามข้อมูลออกมาจะพบว่าปริมาณเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญต่อรายย่อย จาก  SBL  มีสัดส่วน 11 % จากช่วงโควิดอยู่ที่ 7 % และผู้ที่ใช้ 80%  คือต่างชาติ  แต่ละโบรกจะไม่เห็นข้อมูลแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเห็นภาพรวมทุกอย่าง  

ถ้าจะให้มีความโปร่งใส่  ลดกระแสข่าวลือ สร้างความเชื่อมั่นได้ต้องออกมาเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้แบบรายวันให้นักลงทุนรับรู้ไม่จำเป็นต้องปกปิด โดยต้องระบุแยกประเภทได้ว่าการซื้อขายมาจากการ SBL และ short sell  เท่าไร  มีสัดส่วนผ่าน HFT หรือ Robot Trade เป็นอย่างไร เพื่อเกิด Fair Game ให้ทุกกลุ่มนักลงทุนไม่ใช่ ปกปิดข้อมูลด้วยการไม่รายงานและแจ้งแค่การซื้อขายปกติ ทั้งที่ความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัวมีการตั้ง Offer ที่ผิดปกติ