GULF ทุ่มงบลงทุนปีหน้า 2 หมื่นล้าน-มั่นใจรายได้โต30%จากปีนี้
GULF ตั้งเป้าลงทุน 5 ปี (67-71) 9 หมื่นล้าน แบ่งเป็นปีหน้า 2 หมื่นล้าน ลงทุน"โรงไฟฟ้าหมุนเวียน-โรงไฟฟ้าก๊าซ-ดิจิทัล-โครงสร้างพื้นฐาน" คาดรายได้ปี 67 โต 30% จากปีนี้ เหตุโรงไฟฟ้าCOD อีก 2.49 พันเมกะวัตต์ จ่อขายหุ้นกู้อีก3-3.5 หมื่นล้าน เพื่อโรโอเวอร์-ใช้ลงทุน
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า แผนลงทุน5 ปี (2567-2571)อยู่ที่ 90,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนสัดส่วน 80% ลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสัดส่วน 15% ลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานสัดส่วน 3% และลงทุนดิจิทัลและการลงทุนสัดส่วน 2% โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสด การเสนอขายหุ้นกู้ และ การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน
สำหรับในปี2567 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 65% โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 31% ลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3% และที่เหลืออีก 1% ลงทุนด้านดิจิทัลและการลงทุน
ทั้งนี้ในปี 2567 บริษัทมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 30,000-35,000 ล้านบาท หลังจากปี 2566 บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ในเดือนมี.ค. มูลค่า 20,000 ล้านบาท อายุ 5.6 ปี ดอกเบี้ย 3.28% และเดือนก.ย.ออกเสนอขาย 15,000 ล้านบาท อายุ 4.53 ปี ดอกเบี้ย 3.63%
นางสาวยุพาพิน กล่าวว่า รายได้ปี 2567 คาดว่าจะเติบโต30% จากปี 2566 โดยสาเหตุที่รายได้ปี 2567เพิ่มขึ้นจากบริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD)เพิ่มอีก 2,490 เมกะวัตต์ ทำให้มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าที่ CODเป็น14,930 เมกะวัตต์ จากปีนี้อยู่ที่ 12,440 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการ โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ พีดี (GPD) ยูนิตที่3ที่COD วันที่ 31 มี.ค. และยูนิตที่4 COD วันที่ 1 ต.ค. โครงการโรงไฟฟ้าหินกองยูนิตที่ 1 กำลังผลิต 770 เมกะวัตต์ COD วันที่ 1 มี.ค. โครงการโซลาร์รูฟ ที่COD 100 เมกวัตต์ โครงการโซลาร์ฟาร์มจำนวน 160 เมกะวัตต์ ในไตรมาส4 และโครงการโซลาร์ฟาร์ม +แบตเตอรี่ จำนวน 135 เมกะวัตต์ในไตรมาส4 ปีหน้า
สำหรับบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ศูนย์ซื้อขาสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ขอซึ่งจะเริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงปลายปีนี้ และจะเปิดให้บริการเป็นการทั่วไปในต้นปีหน้า
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะประกอบธุรกิจ Virtual Bank ร่วมกับพันธมิตร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกใบอนุญาต
นางสาวยุพาพิน กล่าวว่า ส่วนการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2568 โดยจะมีกำไร 400-500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งGULF ถือหุ้นสัดส่วน 40% จะรับรู้รายได้ 200 ล้านบาทต่อปี โดยลูกค้าจะเป็น เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล และลูกค้าองค์กร ฯลฯ โดยด้าต้าเซ็นเตอร์มีแผนที่จะก่อสร้างเพิ่มเป็น 40 เมกะวัตต์
สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส4 ปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย จากที่โรงไฟฟ้า GPD ยูนิตที่ 2 ที่COD เมื่อวันที่ 1 ต.ค. และโครงการโรงไฟฟ้าลมที่เยอรมัน เป็นช่วงไฮซีซัน และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่บริษัทร่วมทุนกับGUNKUL ก็จะมีผลดำเนินงารที่ดีเช่นกัน รวมถึงจากราคาก๊าซธรรมชาติ (เฮนรี่ฮับ)ปรับตัวสูงขึ้นนั้นก็จะส่งผลดีโรงไฟฟ้า Jackson 1,200 MW ในสหรัฐ และโซลาร์รูฟ
ดังนั้นคาดว่ารายได้ปี 2566 โตตามเป้า 50% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้ 95,076.17 ล้านบาท