ตลท. ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ OTO และติดตามคำชี้แจงของบริษัท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้บริษัท วันทูวัน คอนแทดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 9 เดือนปี 2566
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้บริษัท วันทูวัน คอนแทดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 9 เดือนปี 2566 ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการบันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตจากการขายเงินลงทุน 120 ล้นบาท การจ่ายเงินมัดจำเพื่อศึกษาโรงไฟฟ้พลังงานลมที่เวียดนาม 100 ล้นบาท และการจ่ายเงินประกันเพื่อศึกษาการทำการตลาดแพลตฟอร์ม 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ในงวด 9 เดือนปี 2566 บริษัทมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุน ของบริษัทจดทะเบียน 176 ล้านบาท
ทั้งนี้ ให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 3 มกราคม 2567 และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ OTO และติดตามคำชี้แจงของบริษัท
โดยสรุปข้อมูลในงบการเงิน 9 เดือน ปี 2566
1.ค่าเผื่อผลขาดทุน ด้านเครดิตจากการขายบจก.ฟิจิตอลสเปซ ดีเวลลอปม้นท์ หรือ PSD บริษัทย่อย 49% มูลค่า 120 ล้านบาท จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน พบว่าบริษทบันทึกค่าเผือผลขาดทุนด้านเครดิตสำรองหนี้สูญ 120 ล้านบาทของลูกหนี้ที่ทำสัญญาซื้อหุ้น PSD โดยที่บริษัทรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนไปเมื่อไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 51 ล้านบาท รายละเอียดตามข่าว SETSMART วันที่ 5 เมษายน 2566
2.เงินมัดจำเพื่อศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม และเงินประกันเพื่อศึกษาการทำการตลาดแพลตฟอร์ม มูลค่า 110 ล้านบาท จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน พบว่ากลุ่มบริษัทเมือตรมาส 3 ปี 2566 อนุมัติรายการดังนี้
- ให้บริษัทศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนามโดยลงทุนในหุ้นสามัญของหุ้นบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง (ผู้ขาย) บริษัทวางเงินมัดจำแล้ว 100 ล้านบาท (15% ของราคาซื้อขาย)
- ให้บริษัท อินโน ฮับ จำกัด หรือ INH บริษัทย่อย ร่วมทุนกับนิติบุคคลแห่งหนึ่งเพื่อศึกษาการทำการตลาดแพลตฟอร์ม โดยวางเงินค้ำประกัน 10 ล้านบาท (25% ของมูลค่ารายการ)
ต่อมาในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทและ INH ได้ยกเลิกการลงทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเรียกเงินมัดจำคืน
3.ขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียน มูลค่า 176 ล้านบาท บริษัทมีขาดทุนจากการนำเงินไปลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียน
โดยประเด็นที่ขอให้บริษัทชี้แจง การพิจารณาของคณะกรรมการในการตัดสินใจแต่ละรายการ ผลกระทบต่อสภาพคล่อง
และการดำเนินการของบริษัท รวมถึงการลงทุนเป็นไปตามนโยบายการลงทุนหรือไม่