‘วนรัชต์’ เลื่อนฟังคำสั่งอัยการคดี STARK อ้างเข้าโรงพยาบาลทำ ‘บอลลูนหัวใจ’

‘วนรัชต์’ เลื่อนฟังคำสั่งอัยการคดี STARK อ้างเข้าโรงพยาบาลทำ ‘บอลลูนหัวใจ’

“วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” เลื่อนรับฟังคำสั่ง "อัยการ" คดี “สตาร์ค” วันนี้ อ้างเหตุป่วยโรคหัวใจ ต้องเข้าทำ “บอลลูนหัวใจ” ด่วน

รายงานข่าวว่า วันนี้ (9 ก.พ.2567) ทางพนักงานอัยการเจ้าของคดี บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ได้นัดพิจารณาคดี สำหรับผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกสั่งฟ้อง จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (หลบหนี) 2. นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 3.นางสาวยสบวร อำมฤต และ 4. นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

ล่าสุด ยังไม่พบการเดินทางมาของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เพื่อมารับฟังคำสั่งอัยการตามเวลานัด 10.00 น. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากผู้ใกล้ชิด นายวนรัชต์ ว่า มีการเข้ารับการักษาโรคหัวใจ ด้วยการเข้าทำบอลลูนหัวใจ (Balloon Angioplasty)  ที่โรงพยาบาล

 

จากก่อนหน้าที่ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI กลางปี 2566 ที่ผ่านมา 

ประกอบด้วย 1.บริษัท STARK 2.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ 3.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 4.นายชินวัฒน์ อัศวโภคี 5.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ 6.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม 7.บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) 8.บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI) 9.บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด และ 10.บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

ด้าน DSI ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติมรับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 และทำการสอบสวนเสร็จสิ้นเมื่อเดือนธ.ค. 2566 ซึ่งเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 11 คน ประกอบด้วย 1.บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) 2.นายชนินทร์ 3.นายวนรัชต์ 4.นายชินวัฒน์ 5.นายศรัทธา 6.นายกิตติศักดิ์ 7. นางสาวยสบวร อำมฤต 8.PDITL 9.TCI 10.อดิสรสงขลา และ 11.เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง พบการทุจริตจนผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวน 14,778 ล้านบาท

ปรากฏในสำนวนสั่งฟ้องของสำนักงานอัยการเดือนม.ค.2567 เพิ่มผู้ต้องหา 1 ราย นางสาวนาตยา ปราบเพชร ซึ่งเป็นฝ่ายบัญชี STARK และสั่งดำเนินคดี 7 ราย แต่กลับไม่มี 5 รายชื่อตัวการใหญ่ ประกอบไปด้วย นายชนินทร์ ซึ่งหลบหนีนอกประเทศ ส่วนที่เหลืออัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้อง คือ นายวนรัชต์ , นายชินวัฒน์ ,นายกิตติศักดิ์ และนางสาวยสบวร

 

ทั้งนี้ กรณีการทุจริตของ STARK พบว่ามีผู้เสียหายทั้งสิ้น จำนวน 4,704 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 14,778 ล้านบาท (คดีพิเศษที่ 57/2566) ซึ่งคดีนี้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยเป็นอย่างมาก 

ดังนั้น DSI โดยกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน จึงเริ่มทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ เมื่อ 20 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา และมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 11 คน ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา และฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยมีเอกสารพยานหลักฐานทั้งสิ้นจำนวน 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น

นอกจากการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังพบว่ามีการนำเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท โอนเข้ากลุ่มบริษัทของผู้ต้องหาเพื่อไปชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า รวมทั้งยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีส่วนตัวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณาดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 49 วรรคท้าย 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์