'เบิร์ท' หลงโมเดลธุรกิจใหม่ เหตุผลกอดหุ้น MGI แน่น!
หุ้น MGI ตั้งแต่ IPO เพิ่มขึ้น 1,218.18% 'เบิร์ท' มองอัตรากำไรแนวโน้มในอนาคตว่าในปี 67 -68 ยังคงเติบโตได้ มีการขายของใน รูปแบบใหม่ที่ผ่านช่องทาง Tik Tok ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ด้าน "โบรก" แนะ ยังไม่มีคำแนะนำ เหตุธุรกิจ Affiliate Marketing ในไทย ยังไม่มีธุรกิจใดที่มีรูปแบบที่คล้ายคลึง หรือใกล้เคียง
หุ้น MGI หรือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็นหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดได้เมื่อช่วงธ.ค. 2566 ราคา IPO ที่ 4.95 บาท ปัจจุบันราคาพุ่งนิวไฮที่ 65.25 บาท เพียงระยะเวลาแค่ 2 เดือนราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงถึง 60.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1,218.18% เรียกง่ายๆว่าหุ้น 10 เด้ง!!
ความน่าสนใจของหุ้นนี้ไม่เพียงแค่ราคาหุ้นที่ร้อนแรง แต่ด้านธุรกิจต่างเป็นที่พูดถึงอย่างมากว่า "ฉีกโมเดล" ธุรกิจ Commerce แบบเดิมๆ
"มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์" หรือ เบิร์ท นักลงทุนอิสระชื่อดัง ที่เข้าถือหุ้นใหญ่ในลำดับ 5 ของหุ้น MGI เปิดใจว่า ก่อนที่เข้ามาซื้อหุ้น MGI มองอัตรากำไรที่เติบโตมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปี 2566 และในปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น หลังเข้าไปศึกษาในหนังสือชี้ชวนถึงโครงการหลายอย่างที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตจากการหาศิลปินเพิ่ม การจัดการประกวด หรือการขายสินค้าที่ทำให้มีโอกาสการเติบโตได้อีก ขณะที่แนวโน้มในอนาคตว่าในปี 2567 -2568 ยังคงเติบโตได้อยู่
ทั้งนี้ MGI มีการขายของใน รูปแบบใหม่ที่ผ่านช่องทาง Tik Tok ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงขณะที่มีการไลฟ์ขายของอาจจะได้ในราคาพิเศษ และได้ใกล้ชิดกับศิลปินได้พูดคุยผ่านทางคอมเม้นตอนขณะไลฟ์ขายของ เป็นอีกหนึ่งฐานของแฟนคลับ ซึ่งถือเป็น “การทำการตลาดในรูปแบบใหม่ และยังสามารถเติบโตได้อีก”
ส่วนรายได้กำไรที่ทำได้ดีในปีที่ผ่านมา และคาดว่าปีนี้จะทำได้ดีจากฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม ได้ในอีกหลายช่องทางจากการโกอินเตอร์ ซึ่งการพิจารณาเข้าไปลงทุนจะมองกิจการที่สามารถไปทั่วโลกได้ เพราะจะทำให้เกิดการเติบโต ด้านราคาหุ้นที่ร้อนแรงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการ ตั้งราคาขายช่วงไอพีโอค่อนข้างถูก รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในตัวของผู้บริหารและมิสแกรนด์ไทยแลนด์อย่าง “อิงฟ้า วราหะ” ที่มีความสามารถหลากหลาย
ด้านมุมมองของนักวิเคราะห์ “กิจพณ ไพรไพศาลกิจ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ราคาหุ้น MGI มาจาก 2 เรื่องผลประกอบการปี 2566 มีกำไรที่ 119 ล้านบาท หรือ 149% และ การประเมินมูลค่าในเชิงธุรกิจ Affiliate Marketing ผ่านทางช่องโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok ถือเป็นเรื่องใหม่ เป็นลักษณะที่มีรูปแบบศักยภาพสูงมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในหลาย ๆ ประเทศที่มีการใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาสนับสนุนในทางการค้า และพอมาบวกกับรูปแบบของธุรกิจที่มีผู้สนับสนุนในการแนะสินค้าและบริการ หากสินค้านั้นดีจริง ทำให้การเข้าถึงของฐานผู้ซื้อต้องถือว่า สามารถที่จะสร้างรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม จากราคาหุ้นขึ้นที่ในระดับ 10 เท่า และร้อนแรง “ยังไม่มีคำแนะนำให้กับนักลงทุน ”เนื่องจากต้องยอมรับว่ายังไม่มีความคุ้นเคยกับการประเมินในรูปแบบธุรกิจ Affiliate Marketing และในประเทศไทย ยังไม่มีธุรกิจใดที่มีรูปแบบที่คล้ายคลึง หรือใกล้เคียง ต้องถือว่า MGI เป็นหุ้นตัวแรก ๆ จึงต้องดูกรณีของหุ้นในต่างประเทศเข้ามาศึกษาว่า ในช่วงแรก ๆของการเติบโตนั้นอยู่ในช่วงระดับใดได้บ้าง
สำหรับหุ้น MGI ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย P หุ้น MGI ไปแล้วถึง 3 ครั้ง ล่าสุด เมื่อ 28 ก.พ.2567 ให้หยุดพักซื้อขาย 1 วัน เนื่องจากการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ จนเป็นเหตุให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย Level 3 ซึ่งจะปลดเครื่องหมาย P วันนี้ ( 29 ก.พ. 2567 ) และเป็นที่จับตามองว่าราคาหุ้นสร้างปรากฎการณ์ซิลลิ่ง(อีกรอบหรือไม่)