ตลท.ป่วนเผลอปลด SP ‘3 หุ้น’เสียหายกว่า 6.3 ล้านบาท ย้ำพร้อมชดใช้
“ตลาดหลักทรัพย์” ป่วน เผลอปลด SP ใน 3 หุ้น “JKN MILLและ MILL-W” ราว 25 นาที มียอดซื้อขายรวมกว่า 6.3 ล้านบาท สั่งยกเลิกวอลุ่มเทรดทั้งหมด พร้อมยอมจ่ายค่าเสียหายทุกบาท ด้าน “รองรักษ์” น้อมรับความผิดพลาด ชี้เป็นระบบเทรดใหม่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ในระบบการซื้อของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในช่วงเช้าของวานนี้ (4มี.ค.) โดย ตลท. ได้ปลดเครื่องหมาย SP หรือการห้ามซื้อขายหุ้นในหุ้น PLE แต่กลายเป็นว่าหุ้นของ JKN และ MILL รวมไปถึง MILL-W ได้รับการถูกปลด SP ลงด้วย ทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นเหล่านี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงควรต้องถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เอาไว้อยู่
กระทั่งเวลา 10.25 น. ตลท. ได้กลับมาขึ้นเครื่องหมาย SP ในหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้อีกครั้ง โดยในช่วงเวลา 25 นาที ที่หุ้นทั้ง 3 ตัวนี้เปิดทำการซื้อขายจากข้อผิดพลาดของระบบ ตลท. พบว่า มีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 6.3 ล้านบาท ซึ่งต่อมา ตลท. ได้ทำการยกเลิกการซื้อขายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งหมด พร้อมกับได้เชิญโบรกเกอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายมาชี้แจงและขอให้กลับไปทำความเข้าใจกับลูกค้า โดยที่ ตลท. จะเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากความผิดพลาดดังกล่าว
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และ หัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กร และกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตลท.ได้ทำการยกเลิกการซื้อขายที่จับคู่ได้ในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่า เกิดจากความผิดพลาด ที่เราต้องทำความเข้าใจระบบใหม่มากขึ้น หลังจากได้เริ่มนำระบบใหม่ของแนสแด็ก มาใช้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ถึง 1 ปี
หลังจากพบปัญหาที่เกิดขึ้นเราได้รีบพูดคุยกับโบรกเกอร์ เพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้าทันที โดย ตลท.จะเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดดังกล่าวทุกรายการ ในรูปแบบ cash settlemen ไม่เกินมูลค่าการซื้อขายที่จับคู่ได้และถูกยกเลิก ราว 6 ล้านบาท ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรมธรรม์ประกันที่มีความคุ้มครองความเสียหายดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน
สำหรับระบบใหม่ Multi Matching Engine”หรือระบบจับคู่คำสั่ง (Matching) ของตลท. และ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นระบบของแนสแนสเด็ก นับว่าเป็นระบบที่ดีที่ ตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำและตลาดหลัดทรัพย์ใช้กันในระดับโลก ซึ่งยังไม่เคยเกิดปัญหาดังกล่าวมาก่อน ทาง ตลท.ได้รายงานปัญหาและคงพูดคุยกับทางแนสเด็กเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจระบบมากขึ้น
“เรามอง ปัญหานี้เป็นบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมากอีก ด้วยระบบใหม่ นำมาใช้งานไม่ถึง 1 ปี เราต้องทำความเข้าใจระบบมากขึ้นเพราะบางอย่างเราอาจเข้าใจยังไม่ครบถ้วน”