‘หุ้นเวียดนาม’ ฟื้นตัวจริง หรือ สับขาหลอก
“ตลาดหุ้นเวียดนาม” เป็นอีกตลาดที่ฟื้นตัวคึกคักรับต้นปี 2567 ไม่แพ้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบัน ดัชนี VN Index เพิ่มขึ้นเหนือ 10% แล้ว เชื่อว่า ตลาดหุ้นชายขอบแห่งนี้ เริ่มกลับสู่เรดาห์นักลงทุนกันอีกครั้งจากหลายปีก่อนที่ติดท็อปสตาร์ของนักลงทุนทั่วโลก
KEY
POINTS
- หุ้นเวียดนาม เป็นช่วงที่ผ่านจุดก้นกะทะแล้วกำลังไต่ขึ้นมา หวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในอนาคต
- Valuation ตลาดหุ้นเวียดนาม P/E ที่ระดับ 10 เท่า เป็นระดับที่น่าสนใจไม่น้อย
- จุดเสี่ยงของเวียดนาม ต้องเร่งแก้ไขอย่าง "ภาคอสังหาริมทรัพย์" ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดตราสารหนี้ได้
- บลจ.จิตตะเวลธ์ มอง ปีทองหุ้นเวียดนาม…อัปเลเวลขึ้นแท่นตลาดเกิดใหม่
-
แนะ "คนที่ลังเล" มองเป็นโอกาสลงทุน หุ้นเวียดนาม แนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่ไม่แพง
-
"คนติดดอย" ตอนนี้อาจยังไม่ได้หลุดดอย อดทน แนะทำการบ้านทบทวนหุ้นที่ลงทุน ต้องมีศักยภาพโตให้ผลตอบแทนลงทุนข้างหน้า ระยะยาวนำผลตอบแทนงอกงามกลับมาให้พอร์ตลงทุนได้
“ตลาดหุ้นเวียดนาม” เป็นอีกตลาดที่ฟื้นตัวคึกคักรับต้นปี 2567 ไม่แพ้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบัน ดัชนี VN Index เพิ่มขึ้นเหนือ 10% แล้ว เชื่อว่า ตลาดหุ้นชายขอบแห่งนี้ เริ่มกลับสู่เรดาห์นักลงทุนกันอีกครั้งจากหลายปีก่อนที่ติดท็อปสตาร์ของนักลงทุนทั่วโลก
แต่ช่วงนี้ หลายคนคงมีคำถามว่าตลาดหุ้นเวียดนามฟื้นจริงหรือหลอกกันแน่! และยังลงทุนระยะยาวดีจริงหรือไม่ จากกที่นักลงทุนยังติดดอยบาดเจ็บกันอยู่ก็มีไม่น้อย
ลองมาไขคำตอบ "หุ้นเวียดนาม" ฟื้นจริงหรือหลอก ในปีนี้ ”Bloomberg" มองทิศทางเป็น "บวก" จากแนวโน้มการเติบโตของ GDP อยู่ที่ +6.5% จากการยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐและญี่ปุ่น การใช้นโยบายของรัฐบาลที่ยังคงผ่อนคลาย หลังเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย แนวโน้มของการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาเวียดนาม และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ เวียดนามยังได้รับประโยชน์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เปิดโอกาสให้เวียดนามเป็นทางเลือกในการย้ายฐานการผลิต ซึ่ง เวียดนาม มักเป็นตัวเลือกเสมอ
ในระยะข้างหน้า หากเวียดนามสามารถดันตัวเองจากตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) เป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) “เงินทุน” รอพร้อมไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน อาจเป็นปีทองของเวียดนามที่หุ้นทั่วไปหรือแม้แต่หุ้นเล็กๆ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
“ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด หรือ Jitta Wealth มองว่า หาก ตลาดหุ้นเวียดนาม ถูกยกระดับเป็นตลาดเกิดใหม่จริง และมีแนวโน้มถูกดึงเข้าไปคำนวณบนดัชนี FTSE ก็พร้อมจะดึงดูดเงินทุนไหลเข้าตลาดมากขึ้น ดันราคาหุ้นธุรกิจพื้นฐานดีเพิ่มสูงขึ้นอีกครับ
มองว่า เวลานี้เป็นโอกาสลงทุนในช่วงตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่งฟื้นไข้ ขณะที่มี down side risk จำกัดจากสถิติตลาดหมีในอดีตของเวียดนาม
แน่นอน สำหรับ "นักลงทุนสาย VI" จะทำการบ้านอย่างหนักเพื่อค้นหาโอกาสลงทุนหุ้นคุณภาพดี มีอนาคตเติบโตตามเศรษฐกิจและเทรนด์ของโลก ราคาหุ้นที่ยังถูกหรือปรับขึ้นไปไม่มากเมื่อเทียบกับ Valuation ของหุ้นและของภาพตลาดโดยรวม
ขณะที่ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก็น่าจะผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้ว โดยไตรมาส 4 ปีที่แล้ว คาดอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตถึง 30% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถือว่าเป็นระดับค่อนข้างสูงทีเดียว พร้อมกับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ที่คาดจะเติบโตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจ
ภาพรวมของตลาดหุ้นเวียดนาม น่าจะเป็นช่วงที่ผ่านจุดก้นกะทะแล้วกำลังไต่ขึ้นมา ตามหาความคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในอนาคต หากดู Valuation ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ P/E ที่อยู่แถว 10 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจไม่น้อย
ขณะที่ Foreign Limit ของหุ้นต่างๆ ยังคงเต็มสัดส่วนที่กำหนด และมีค่าพรีเมียมในระดับสูง “ตราวุทธิ์" เชื่อว่า ตลาดหุ้นเวียดนามปรับขึ้นในรอบนี้เป็นการฟื้นตัวได้จริง โดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน ตลาดที่มี Valuation และมีหุ้นคุณภาพดี ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ให้คุณเลือกลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
แต่ก็ต้องยอมรับว่าปีที่แล้วเป็นปีที่ FDI ชะลอตัวลงจากหลายปีก่อนหน้า โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ามา 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทชั้นนำยังไว้ใจเวียดนามให้เป็นฐานการผลิตสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Nike หรือ Lego อีกทั้ง ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตเดือน ม.ค. 2567 ได้ปรับตัวขึ้นเกินระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2567 จะขยายตัว 5.8% เนื่องจากได้แรงหนุนจากการส่งออก รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเวียดนามที่จะหนุนการบริโภคและการผลิต รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนภาครัฐ ทำให้มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี และแน่นอนว่าภาคธุรกิจจะสามารถกลับมาสร้างผลประกอบการได้ดีอีกครั้ง
ทางด้าน จุดเสี่ยงของเวียดนาม ยังมีสิ่งสำคัญที่ยังต้องเร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว นั่นคือ "ภาคอสังหาริมทรัพย์" ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดตราสารหนี้ของเวียดนามได้
เมื่อปลายปีที่แล้ว S&P ระบุว่า ปัญหาทางด้านสภาพคล่องเวียดนามได้ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว และสภาวะ Risk on ของตลาดการเงินทั่วโลกหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นแรงบวกหนุนตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือนธันวาคม 2566 และต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 อย่างที่เราเห็นกัน
ปีทองหุ้นเวียดนาม…อัปเลเวลขึ้นแท่นตลาดเกิดใหม่
ตัวอย่าง "Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม" ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำผลตอบแทนได้ดี เมื่อลงทุนหลังตลาดปรับตัวลงหนัก โดย Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม ที่ลงทุนในตลาดหุ้น HOSE และ HNX 5-20 บริษัท ก็ทำผลตอบแทนไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาด ผลตอบแทนจริงเฉลี่ยอยู่ที่ +1.08%
เรียกได้ว่า นักลงทุนที่ลงทุนใน Jitta Ranking หุ้นเวียดนามอยู่รอลุ้นข่าวดีต่อในปีนี้ได้ เพราะแนวโน้มการเติบโตยังไปในทิศทางบวก จากนโยบายของรัฐบาล การได้รับประโยชน์จากทุกสารทิศ และการลงทุนย้ายฐานการผลิตยังคงเกิดขึ้นในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
ส่วนนักลงทุนที่ยังว้าวุ่นใจลังเลว่า หุ้นเวียดนามจะยังไปต่อได้หรือไม่ ตราวุทธิ์ ประเมินว่า ปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ นี่เป็นโอกาสจะได้ของดีที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่ไม่แพง ยังไม่ตกรถ รถยังรอแล่นแรงไปด้วยกันอยู่
สำหรับคนที่ติดดอยหุ้นเวียดนามไว้สูง ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้หลุดดอย แต่หากได้ทำการบ้านทบทวนหุ้นที่ลงทุนไปว่า เป็นธุรกิจที่มีอนาคตมีศักยภาพเติบโต และสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระยะข้างหน้า อาจจะต้องใช้ความอดทนสักหน่อย แต่สุดท้ายการลงทุนระยะยาวภายใต้หลักการที่ถูกต้อง จะนำผลตอบแทนงอกงามกลับมาให้พอร์ตลงทุนได้