‘เรย์ ดาลิโอ’ เผย ‘หุ้นจีน’ ยังน่าลงทุน แม้กำลังเผชิญพายุร้ายในรอบ 100 ปี

‘เรย์ ดาลิโอ’ เผย ‘หุ้นจีน’ ยังน่าลงทุน แม้กำลังเผชิญพายุร้ายในรอบ 100 ปี

“เรย์ ดาลิโอ” มอง หุ้นจีนน่าลงทุนและ “ราคาถูก” แม้ใกล้เผชิญ “พายุร้ายในรอบ 100 ปี” ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เชื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้และยังไม่รุนแรงจนทำให้บริษัทต่างๆ ถอนการลงทุน

“ถึงแม้จีนกำลังเผชิญกับความท้าทาย แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในจีน” 

เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Bridgewater Associates พูดถึงการลงทุนหุ้นจีนจากประสบการณ์ในการลงทุน ซึ่งควรลงทุนในช่วงที่ตลาดร่วงลงอย่างรุนแรงจนนักลงทุนตื่นกลัวและเทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก

“ผมได้ลงทุนในหลายประเทศตลอดช่วงเวลาต่างๆ และได้เรียนรู้สำนวนที่ว่า เวลาที่จะซื้อคือตอนที่ blood in the streets เวลาที่จะซื้อคือเมื่อใครๆ ต่างก็เกลียดตลาดและมีราคาถูก ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นในตลาดหุ้นจีน”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแนวโน้มมากขึ้นว่าผู้นำทางเศรษฐกิจกำลังจะทำบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกับbeautiful deleveraging นั่นคือ “การที่ภาครัฐบาลจีนมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินในระบบเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว”

การคาดการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ดาลิโอ ได้เตือนว่า 'พายุร้ายร้อยปี' อาจ​จะ​ซัด​เข้า​ใส่จีนอย่างจัง หากปักกิ่งไม่สามารถรับมือกับความท้าทายที่สำคัญ รวมถึงช่องว่างระหว่างความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ

เรื่องราวเหล่านี้ เป็นที่น่ากังวลสำหรับนักลงทุนมาหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องยากที่นักลงทุนจะเพิกเฉยต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ก่อภาระหนี้สินและความขัดแย้งทางการค้ากับตะวันตก จนนักลงทุนจำนวนมากต่างพากันเทขายหุ้นจีนหนีออกจากตลาด และบริษัทจีนประสบภาวะตลาดหายวับ 7 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2564

อย่างไรก็ตาม ดาลิโอมองต่างออกไปว่าจีนสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ตราบใดที่ผู้นำจีนยัง "เฉลียวฉลาดและกล้าหาญ"  ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการทั้งการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (quantitative easing)  และการปรับโครงสร้างหนี้สิน (debt restructuring)

"เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ จีนสามารถปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจการเงินให้มีประสิทธิภาพ พวกเขายังสามารถจัดการกับแรงทางการเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ ธรรมชาติ และเทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย"

ขณะที่นักลงทุนยังไม่สามารถมองข้ามความกังวลของเศรษฐกิจจีนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ แต่ยังมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ดีอยู่ในจีน และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมืองของจีนหรือความตึงเครียดกับสหรัฐฯ ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้บริษัทเหล่านั้นถอนการลงทุนออกจากตลาดจีนไปได้

"ผมไม่สามารถกระจายการลงทุนได้อย่างที่ผมต้องการ หากไม่รวมการลงทุนในจีน  ตัวอย่างเช่น จีนและสหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจเพียงสองประเทศที่มีอิทธิพลเด่นชัดในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุด และความสัมพันธ์ระหว่างสองชาตินี้จะส่งผลต่อโลก" และย้ำว่า จีนจะยังคงเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตการลงทุนของเขา

ตลาดหุ้นจีนกำลังฟื้นตัว

ตลาดหุ้นจีนกำลังฟื้นตัวจากการขาดทุนมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์สในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน มูลค่าหุ้นจีนอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ดัชนี MSCI China ซึ่งติดตามบริษัทจีนกว่า 700 แห่งที่ซื้อขายทั้งในและต่างประเทศ ปรับตัวขึ้น 12% จากจุดต่ำสุดในเดือนมกราคม ส่งผลให้ดัชนีนี้กลายเป็นหนึ่งในดัชนีที่ฟื้นตัวได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีอื่น ๆ ทั่วโลกในช่วงเวลานี้

ความต้องการหุ้นจีนจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสการฟื้นตัวของตลาดจีนลดลง 

ข้อมูลจาก Stock Connect ชี้ว่า กองทุนต่างประเทศซื้อหุ้นสกุลหยวนมูลค่า 2 หมื่นล้านหยวน ในเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มจากการซื้อสุทธิ 6 หมื่นล้านหยวนในเดือนกุมภาพันธ์ ส่งสัญญาณการสิ้นสุดของการไหลออกของเงินทุนสุทธิจากตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลา 6 เดือน

แม้จะมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ เรย์ ดาลิโอก็ยังคงมองสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง โดยเตือนว่า ปัญหาต่างๆ ของจีนยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล  ผู้นำจีนจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้สินที่เพิ่มขึ้น มิเช่นนั้นอาจเผชิญกับ "ทศวรรษที่สูญเปล่า" แบบเดียวกับญี่ปุ่น

อ้างอิง: scmpbusiness insider