จับตา ‘เปรมชัย’ โผล่ร่วมประชุม Public Presentation 9 เม.ย. นี้ แก้ปมโดนขึ้น CS

ยังคงอยู่ในความ “สนใจ” และต้องการทราบ “ข้อมูลที่ชัดเจน” ของนักลงทุน สำหรับ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ของ “เปรมชัย กรรณสูต” ผู้ถือหุ้นใหญ่และกุมบังเหียนสูงสุด ITD ถึงแนวทางการของการแก้ไข “วิกฤติ ITD” ในตอนนี้ ! 

สอดรับกับเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ที่ผ่าน ITD แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “CS” (Caution-Financial Statements) บนหลักทรัพย์ของบริษัท ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินประจำปี 2566 

ดังนั้น บริษัทจะต้องจัด Public Presentation เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย CS บนหลักทรัพย์ของบริษัท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการชี้แจงแนวทางแก้ไขเพื่อให้พ้นเหตุจากปัญหาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจึงขอเรียนเชิญผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม Public Presentation ในวันที่ 9 เม.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เข่าร่วมประชุม สามารถส่งชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อกลับ และอีเมล์ให้ทางบริษัทได้ภายในวันที่ 5 เม.ย. เวลา 17.00 น.

โดยภายหลังการปิดให้ “ผู้ประสงค์” เข้าร่วมประชุมลงชื่อเพื่อร่วมฟังแนวทางดังกล่าว ปรากฏว่า มีจำนวนผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง แสดความสนใจจำนวนมาก 

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า การประชุมครั้งนี้ “เปรมชัย กรรณสูต” กรรมการและประธานบริหารบริษัท ITD อาจจะเข้าร่วมประชุมและร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากต้องการชี้แจง และเรียกความเชื่อมั่นกับนักลงทุนด้วยตัวเอง 

หากย้อนเส้นทางของสารพัดปัญหาของ ITD สาเหตุของเรื่องนี้ คงต้องยกให้การที่ ITD ประสบปัญหาเรื่องของการ “ขาดสภาพคล่อง” อย่างหนัก บวกกับบริษัทมีผลดำเนินงาน “ขาดทุนสุทธิ” ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 5 ปีติดต่อกัน

สะท้อนผ่านตัวเลขผลประกอบการระหว่างปี 2562-2566 โดยมี “ผลขาดทุน” -37.34 ล้านบาท -1,104.45 ล้านบาท -155.62 ล้านบาท -4,758.85 ล้านบาท และ -1,072.37 ล้านบาท ตามลำดับ 

จากภาพที่ผ่านมา "นักลงทุน" ในตลาดหุ้นไทยสัมผัสและเห็นมาตลอดคือ “หุ้น ITD” คือบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ "เบอร์ 1" ของประเทศไทย ที่มีมูลค่าสินทรัพย์แตะระดับ “แสนล้านบาท” 

โดย "หุ้น ITD" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2537 และกำลังจะครบ 30 ปีของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปีนี้ !! แต่ปีที่ 30 ในตลาดหุ้น แต่กลับกำลังเป็นปีที่ “วิกฤติหนัก” ของ ITD คงไม่ผิด 

ด้วยเพราะฐานะการเงิน “ย่ำแย่” หลังจากขาดสภาพคล่องอย่างหนัก “จุดเริ่มต้น” คงเริ่มต้นจาก โครงการลงทุนหลายโครงการมีความผิดพลาด ทั้งตัวโครงการที่ไม่เป็นไปตามแผน และโครงการที่ล่าช้าไปกว่าแผน

และหนึ่งในชนวนเหตุที่เริ่ม “สั่นคลอน” ธุรกิจของ ITD เกิดขึ้นประมาณปี 2553 เมื่อ ITD ขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายที่เมียนมา แต่ไป “ไม่รอด” และต้องสูญเสียเงินลงทุนไปเฉียด “หมื่นล้าน” 

ต่อเนื่องไปจนถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ก็ประสบปัญหาความล่าช้า , โครงการลงทุนเหมืองแร่โปแตช ที่จังหวัดอุดรธานี ที่มีความคืบหน้าอย่างเชื่องช้า

แมว่าแทบทุกโครงการที่อยู่ในอุ้มมือของ ITD จะมีมูลค่าโครงการ “มหาศาล” แต่ในความเป็นจริงปรากฏว่าโครงการยังไม่ได้สร้าง “รีเทิร์น” จากโครงการเหล่านี้กลับเข้ามาเลย... 

ประกอบกับปัญหางบค้างท่อและการเบิกจ่ายงบจากภาครัฐที่ ITD เข้าไปรับงานมีความล่าช้า จึงยิ่งทำให้สภาพคล่องของ ITD ตึงตัวมากยิ่งขึ้น

จนต้นปี 2567 ปัญหาดังกล่าวลามกระทบ “การไถ่ถอนหุ้นกู้” และ “ชำระคืนเงินกู้” รวมทั้งสถาบันการเงิน หรือแม้แต่เงินเดือนพนักงานยังไม่สามารถจ่ายได้ครบถ้วน แม้ว่า ITD จะขอขยายเวลาการชำระหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 5 รุ่น วงเงิน 14,455 ล้านบาท ออกไปอีก 2 ปี โดยไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ 

และก็ดูเหมือนว่า ITD กำลังทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะแก้ปัญหาสภาพคล่อง โดยล่าสุด บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กำลังพิจารณาขายหุ้นในบริษัทลูก “เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น” ที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 90% (อีก 10% กระทรวงการคลัง ถืออยู่) ให้กับผู้ร่วมทุน ที่สนจะเข้ามาลงทุน ซึ่งตอนนี้อ​​ยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาคัดเลือก และเจรจา

รวมทั้ง ITD กำลังเร่งเจรจา "ขอกู้ยืมเงิน" จากธนาคารเพิ่มเติมเพื่อนำเงินมาบริหารกิจการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอสินเชื่อใหม่ และเจรจากับธนาคารที่เกี่ยวข้อง  

ดังนั้น ต้องไม่ลืมว่า ITD เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างเบอร์หนึ่งของไทย และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งยังออกหุ้นกู้จำนวนหลายรุ่น ดังนั้น การจะปล่อยให้ ITD มีอันเป็นไป หรือแก้ปัญหาไปตามยถากรรม ย่อมส่งผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่ใหญ่หลวง

ไม่ใช่แค่โครงการรัฐที่อยู่ในมือ ITD ที่จะหยุดชะงัก ซับคอนแทรกที่รับเหมาช่วงงานก็จะมีปัญหา ลามไปจนถึง "ความเชื่อมั่น" ของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ก็จะย่อยยับตามไปด้วย

ดังนั้น ขนาดปัญหาของ ITD จึงถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา !! จึงไม่แปลกที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คงต้องระดมการช่วยเหลือ เพื่อประคับประคอง ITD จนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้และกลับมายืนอีกครั้งให้ได้ !!