SM ลุ้นผลงาน Q2/67 โตกว่าเป้า สินเชื่อมือถือสดใส เร่งกด NPL เข้ากรอบ
บมจ. สตาร์ มันนี่ (SM) ชี้แนวโน้มผลงาน Q2/67 แรงต่อจาก Q1/67 ที่รายได้เกินเป้า สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะมือถือยอดโดดเด่น พร้อมมีการใช้โปรแกรมวิเคราะห์อัจฉริยะเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงหนุนกำไรสวยขึ้น ย้ำเป้ารายปี 67 โต 15% กรอบ NPL ไม่เกิน 4% เชื่อคุมไหว
นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้รวม 369.21 ล้าบาท ขยายตัวราว 17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
SM ประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อแบบมีหลักประกัน รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีสาขาส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกในพื้นที่เขต EEC
ประเมินตลาดเช่าซื้อประเภทสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาส 2 นี้ยังคงโดดเด่น ประกอบกับบริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจการขายสินค้าและสินเชื่อเช่าซื้อ ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้เหมาะสมกับคุณสมบัติและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารงานติดตามชำระหนี้
"ไตรมาสแรกเราเติบโตกว่าเป้าหลังจากนำเทคโนโลยีล็อกโฟนมาใช้ช่วยให้ลูกค้าชำระเงินดีขึ้น และไตรมาส 2 นี้จากการเน้นรุกตลาดมือถือต่อพบว่ายอดขายยังเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งมีการปรับยิลด์ดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มั่นใจภาพรวมซึ่งรวมทั้งผลการดำเนินงานบรรทัดสุดท้ายจะดีขึ้นด้วย" นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรก 2567 ยอดพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของ SM มีมูลค่ารวมอยู่ที่ราว 2.7 พันล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากการเติบโตของยอดขายและสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเฉพาะธุรกิจการขายและเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ แล้วบริษัทฯ ยังมีบริการสินเชื่อไฟแนนซ์ บริการนายหน้าประกันภัย รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาด้วย ซึ่งทุกธุรกิจล้วนมีการขยายตัวชัดเจน
พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการ ยังยืนยันเป้าหมายการขยายตัวรายได้ทั้งปีที่ 15% จากทั้งปี 2566 ทำได้ 1,379 ล้านบาท ภายใต้ความสามารถทำกำไรที่สูงขึ้น
สำหรับวงเงินลงทุนปีนี้เท่ากับ 20 ล้านบาท เพื่อมุ่งพัฒนาด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มสำหรับบริการลูกค้า และบริษัทฯ มีนโยบายกรอบตัวเลขหนี้เสีย หรือ NPL ที่ไม่เกิน 4%
"เรามีทั้ง Machine learning มาช่วยทั้งพัฒนาและพยากรณ์ลูกค้า ทำให้ความเสี่ยงเราน้อยกว่าคู่แข่ง ส่วนตัวเลข NPL สิ้นไตรมาสแรกที่ 4.9% เกิดจากลูกค้ารายใหญ่เจ้าหนึ่งที่ชำระไม่ทัน ตอนนี้กำลังเจรจาพร้อมเร่งรัดอยู่ซึ่งน่าจะจบลงด้วยดี ถ้าไม่นับกรณีนี้ยังมั่นใจว่าตัวเลขรวมจะเป็นไปตามกรอบได้แน่นอน" นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กล่าว