จ่อไล่นักลงทุนหุ้นมีม Gamestop พ้นกระดาน หวั่นเข้าข่าย ’ปั่นหุ้น’ หลังดันราคาพุ่ง 271%

จ่อไล่นักลงทุนหุ้นมีม Gamestop พ้นกระดาน หวั่นเข้าข่าย ’ปั่นหุ้น’ หลังดันราคาพุ่ง 271%

โบรกเกอร์ออนไลน์ของมอร์แกน สแตนลีย์ จ่อขับนักเทรดคนดัง Roaring Kitten พ้นกระดานเทรด หวั่นมีพฤติกรรมปั่นหุ้น พบเจ้าตัวปล่อยข้อมูลการถือหุ้นติดท็อป 5 หลังช้อนซื้อหุ้นก่อนเคลื่อนไหวในโซเชียลจนราคาพุ่งกว่า 271% ใน 2 วัน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า E-Trade โบรกเกอร์ออนไลน์สัญชาติอเมริกันซึ่งเป็นบริษัทลูกของมอร์แกน สแตนลีย์ กำลังมีการหารือภายในเกี่ยวกับการแบน “คีธ กิลล์” (Keith Gill ) โดยมีข้อกังวลเกี่ยวกับ “การปั่นหุ้น” หลังจากที่ กิลล์เพิ่งเปิดเผยสถานะการถือครองหุ้นจำนวนมากใน GameStop  (GME) ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านดอลลาร์ 

คีธ กิลล์ หรือที่รู้จักในชื่อ "DeepF------Value" บนเว็บบอร์ด Reddit ผู้จุดกระแส "หุ้นมีม" โดยเฉพาะหุ้น GameStop เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายย่อยที่ขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาหุ้น GameStop ในช่วงต้นปี 2564 และทำให้หุ้น GameStop  พุ่งกว่า 271% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังจากที่กลับมาเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียในเดือนพ.ค.2567

ถือหุ้น GameStop ติดท็อป 5

ล่าสุด กิลล์เคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ 3 มิ.ย.67 จนทำให้ราคาหุ้นของ GameStop พุ่งขึ้นถึง 75% ระหว่างการซื้อขาย ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ราคาบวกไป 21% หลังจากที่เจ้าตัวโพสต์ภาพหน้าจอซึ่งอาจจะเป็นพอร์ตการลงทุนของตนเองแสดงให้เห็นว่ากิลล์ถือครองหุ้นสามัญ GameStop จำนวน 5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 115.7 ล้านดอลลาร์ และสัญญาออปชัน  จำนวน 120,000 สัญญา มูลค่า 65.7 ล้านดอลลาร์ โดยมีราคาใช้สิทธิอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ซึ่งสัญญาซื้อเหล่านี้จะหมดอายุในวันที่ 21 มิถุนายน ที่จะถึงนี้

บลูมเบิร์กประเมินมูลค่าการลงทุนดังกล่าวว่า กิลล์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ติดอันดับ 5 ของ GameStop และถือเป็นการถือครองที่เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าจากเดือนเม.ย.ปี 2564 และถ้าหากกิลล์ใช้สิทธิสัญญาซื้อหุ้น GameStop ทั้งหมด จะเพิ่มจำนวนหุ้น GameStop ที่ถือครองเป็น 12 ล้านหุ้น ซึ่งทำให้กิลล์ถือหุ้นรวม 17 ล้านหุ้น จะมีมูลค่า 476 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสี่ของ GameStop ทันที

 

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า E-Trade ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะแบนนักเทรดคนดังรายนี้หรือไม่ ขณะที่โบรกเกอร์ออนไลน์นี้ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับ CNBC โดยระบุว่าไม่ได้หารือเกี่ยวกับกิจกรรมส่วนบุคคลของลูกค้าต่อสาธารณะ

ทั้งนี้ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล หน่วยงานอาชญากรรมทางการเงินระดับโลกของ Morgan Stanley และที่ปรึกษาภายนอก เริ่มมีการหารือกันว่าจะยกเลิกบัญชีของกิลล์หรือไม่ ขณะที่บริษัทกำลังติดตามความเคลื่อนไหวในบัญชีของเขาอยู่

จากการตรวจสอบบริษัทนายหน้าพบว่า ในเดือนพฤษภาคม กิลล์ได้ซื้อสัญญาซื้อออปชันก่อนที่เขาจะโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รายงานเสริมว่า สัญญาซื้อบางส่วนหมดอายุในสัปดาห์นั้น ซึ่งหมายความว่าเขาน่าจะได้รับกำไร

ย้อนไปในปรากฏการณ์ความบ้าคลั่งหุ้นมีมในปี 2564 นั้นสร้างความรุนแรงไปทั่วตลาดหุ้น ทั้งในโลกออนไลน์ และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย รายใหญ่ และหน่วยงานกำกับดูแลอย่างมาก เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการไต่สวนโดยสภาคองเกรสหลายครั้ง 

หนึ่งในประเด็นหลักคือ พฤติกรรมของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยเฉพาะ Robinhood ที่จำกัดการซื้อขายหุ้นมีมบางตัว สร้างความไม่พอใจให้นักลงทุนรายย่อย

รวมทั้ง กิลล์ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในฐานะนายหน้า และ"พลิกโฉมการเทรดหุ้นของนักลงทุนรายย่อยให้เป็นเกม" นอกจากนี้ยังถูกฟ้องร้องแบบคดีรวมกลุ่มหลายคดี รวมถึงคดีที่กล่าวหาว่าเขาแสร้งเป็นนักเทรดมือใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรอง เนื่องจากกิลล์เคยทำงานเป็นพนักงานด้านการตลาดและการศึกษาด้านการเงินที่ MassMutual ในปี 2562 นานกว่า 2 ปี 

อ้างอิง CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์