โบรกฯ มองภาพดอกเบี้ยขาลงเลือนราง เงินเฟ้อไทยสูง หวั่นเงินลงทุนหุ้นไหลยาว

โบรกฯ มองภาพดอกเบี้ยขาลงเลือนราง เงินเฟ้อไทยสูง หวั่นเงินลงทุนหุ้นไหลยาว

SET ยังดิ่ง 5-6% นับแต่ต้นปี เงินทุนไหลออก 8.8 หมื่นล้าน นลท.หวังดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงช่วยฟื้นตลาดหุ้น ทว่าหลังพบเงินเฟ้อยังสูง ทำ บล. ฟินันเซีย ไซรัส สิ้นหวังคาดสัปดาห์นี้เฟดนิ่ง ส่วนในไทยคาด กนง. คงดอก 2.5% ยาว ด้าน บล.เอเชีย พลัส ชี้ 12 มิ.ย. ไม่มีข่าวดี หวั่นเงินทุนไหลออก

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะตลาดหุุ้นไทยนับแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีทิศทางขาลงชัดเจน ดัชนี SET Index อยู่ที่ราว 1,330 จุด ลดลงแล้ว 5.87% (Year to Date) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นหลัก 1 ม.ค. 2567 - 7 มิ.ย. 2567 ขายสุทธิสะสม 88,204.79 ล้านบาท สวนทางกับสถานะซื้อของนักลงทุนในประเทศและสถาบันในประเทศ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวนหนึ่งคาดหวังให้ทิศทางดอกเบี้ยทั้งระดับโลกและในประเทศที่กำลังทรงตัวสูงเปลี่ยนทิศเป็นขาลง ทั้งนี้ในทางทฤษฎีเมื่อดอกเบี้ยในประเทศอยู่กำลังเปลี่ยนทิศทางจากระดับสูงเป็นขาลง นักลงทุนอาจหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น สนับสนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น

โดยเฉพาะดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ ผ่านมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ที่จะประชุมปีละ 6 ครั้ง ซึ่งปีนี้เหลือรอบ 12 มิ.ย. 2567, 21 ส.ค. 2567, 16 ต.ค. 2567 และ 18 ธ.ค. 2567 ที่รอพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงเงินเฟ้อ

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า SET Index วันนี้จะแกว่งตัวด้านข้างค่อนข้างมีโอกาสเป็นขาลงในกรอบ 1,325-1,340 จุด จากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเดือน พ.ค. ที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดลดความคาดหวังจะได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ลดดอกเบี้ยลง เป็นปัจจัยกดดันการลงทุน

ด้านเงินเฟ้อไทยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนเดือน พ.ค. ก็สูงกว่าคาด เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่ม 1.54% (ตลาดคาดเพิ่ม 1.19%) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่ม 0.39% (ตลาดคาดเพิ่ม 0.36%) ปัจจัยหนุนเงินเฟ้อมาจากราคาพลังงานทั้งค่าไฟ ราคาน้ำมันเบนซิน และกลุ่มอาหารสด เงินเฟ้อทั่วไปที่เริ่มกลับเข้ากรอบเป้าหมายที่ 1-3 และแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ยังเชื่อว่ากนง. จะยังคงดอกเบี้ยที่ 2.5% ไปถึงสิ้นปี
 

สอดคล้องกับ บล. เอเชีย พลัส ระบุว่า เงินเฟ้อเดือน พ.ค.67 ของประเทศไทยออกมาสูงกว่าคาดที่ 1.54% YoY ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ยนโยบาย-เงินเฟ้อ) ลดลงมาอยู่ที่ 0.96% ต่ำกว่าทั้งสหรัฐ และ ยุโรป ภาวะดังกล่าวทำให้โอกาสที่จะเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.67 แทบจะไม่มี

และเป็นไปได้ที่อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ไว้ในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่ำกว่า 1% น่าจะมีส่วนทำให้เงินบาทอ่อนค่ากดดันกระแสเงินทุนไหลออก นอกจากนี้อาจทำให้โอกาสที่จะเห็น กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ น้อยลงไปเรื่อยๆ