10 หุ้นโรงไฟฟ้า ช็อตหนักดิ่งจัดกว่า 57% แต่พื้นฐานยังแกร่ง - อัพไซด์เหลืออื้อ 79%
10 หุ้นโรงไฟฟ้า ช็อตหนัก ล่าสุด สนพ. เปิดเผยร่างแผน PDP 2024 ฉบับใหม่ ลดสัดส่วนไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม และหันมาลงทุนพลังงานทดแทนที่มากขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าราคาโดนกดดันลงไปอีก หุ้น EA หนักสุด ราคา YTD ติดลบมากที่สุดในกลุ่ม 57.06% ขณะที่อัพไซด์อื้อ 78.5%
หุ้นโรงไฟฟ้า เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุน จากจุดเด่นในเรื่องความมั่นคงไม่ค่อยผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นพลังงานประเภทอื่นๆ แต่วันนี้ หุ้นโรงไฟฟ้า เริ่มลดเสน่ห์ไปอย่างมาก เพราะเจอปัจจัยลบหลายด้านรุมเร้า แต่ที่หนักสุดคือ กรณีสำนักงานนโยบาย และแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยร่างแผน PDP 2024 ฉบับใหม่ ที่จะมีการลดสัดส่วนไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม และหันมาลงทุนพลังงานทดแทนที่มากขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเจอแรงเทขายหนัก ราคาร่วงระนาวยกแผง หลายหลักทรัพย์ทำ NEW LOW
ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หลังจากที่ สนพ.ออกแผน PDP 2024 ฉบับใหม่ โดยเน้นพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันราคาแก๊สที่มีการปรับขึ้นส่งผลกระทบมายังหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ภายใน 2 ปีนี้อาจจะไม่เห็นเทรนด์ที่ดีสำหรับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ทว่า ผ่านพ้นช่วง 2 ปีนี้ไปได้ ปริมาณการใช้ไฟเศรษฐกิจฟื้นตื่นกลับขึ้นมา บวกกับว่า หากมีการสนับสนุนในภาคเอกชนมากขึ้น อาจจะมีเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีการใช้ดาตาเซนเตอร์มากๆ ในอนาคตก็ต้องมีการใช้ไฟค่อนข้างมาก ส่งผลให้หุ้นโรงไฟฟ้ายังมีอนาคต
โดยเฉพาะ หุ้น GULF ล่าสุดมีการพยายามเข้าไปลงทุนในดาตาเซนเตอร์พอสมควร ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ดี หากนักลงทุนต้องการที่จะเก็บสะสมหุ้นโรงไฟฟ้าในช่วงนี้ถือว่าราคาค่อนข้างต่ำ หุ้น GULF ถือว่าค่อนข้างเหมาะ เนื่องจากมีการขยายไปในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ด้วย
“ปัญหาทางการเมือง ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการลงทุน ดังนั้นนักลงทุนอาจจะต้องรอสักระยะ แต่ทว่าหุ้น GULF มีความน่าสนใจ อาจจะเฝ้าดู และทยอยเก็บสะสมได้ เพราะอนาคตยังคงสดใส”
ขณะที่หุ้น CKP มีความน่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากต่อจากนี้จะเป็นช่วงลานีญาส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนน่าจะเยอะ หุ้นตัวนี้ก็จะได้รับประโยชน์ไปได้ ส่วนหุ้น BGRIM อาจจะเหนื่อยหน่อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก แผน PDP 2024 ฉบับใหม่
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า PDP 2024 ฉบับใหม่ ลดใช้โรงไฟฟ้าที่เป็นแก๊สค่อนข้างมาก จากแผนเดิมจากปี 2018 และจะนำพลังงานทดแทนเข้ามาใช้เยอะขึ้น จากแต่ก่อนที่ใช้พลังงานแบบดั้งเดิม เพราะฉะนั้นโรงไฟฟ้าแก๊สจะเสียประโยชน์ ซึ่งมีหุ้น BGRIM และ GPSC จากแผนในอนาคต PDP 2024 ฉบับใหม่
ขณะเดียวกันราคาแก๊ส LNG โลกมีการปรับขึ้น และค่าไฟที่ยังคงมีแผนควบคุมไว้ไม่ให้แพงจนเกินไป เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐบาลที่ตั้งใจไว้ว่า อยากให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น นอกจากนี้เฟดที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้เหลือเพียงแค่ครั้งเดียว จากปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
ทั้งนี้นักลงทุนหากต้องการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าต้องพิจารณาว่า หุ้นโรงไฟฟ้าหากมีการลงทุนในต่างประเทศ หรือมีการขยายไปลงทุนในพลังงานทดแทนที่มากขึ้น ทำให้มีความน่าสนใจมากกว่า หุ้นโรงไฟฟ้าดั้งเดิมที่เป็นแก๊ส ซึ่งปัจจุบันเซนทิเมนต์ยังคงได้รับผลกระทบ และราคายังคงไม่ปรับขึ้นในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นโรงไฟฟ้ายังถือเป็นหุ้นใหญ่ที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง หากมองที่รายได้ของหุ้นโรงไฟฟ้ายังมีเข้ามาอย่างเนื่อง ถ้าไม่ดูเรื่องของราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาก เพราะฉะนั้นมองว่า ยังสามารถเข้าไปถือหุ้นโรงไฟฟ้าได้ แต่ยังไม่ต้องรีบซื้อเพิ่ม แต่อยากให้นักลงทุนรอจังหวะประมาณกลางถึงปลายไตรมาส 3/67 น่าจะเริ่มทยอยเข้าไปซื้อได้
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำรวจหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยราคา 1 ปียังคงติดลบ แต่ทว่าอัพไซด์ยังคงเหลืออื้อมากสุด 79%
1.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) EA
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 57.06%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 54.38%
- ราคาเป้าหมาย 32.13 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 18.00 บาท
- อัพไซด์ 78.5%
2.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BGRIM
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 26.24%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 31.45%
- ราคาเป้าหมาย 31.34 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 20.70 บาท
- อัพไซด์ 51.40%
3.บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCO
- ผลตอบแทนราคา1 ปี - 22.27%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 25.80%
- ราคาเป้าหมาย 139.50 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 99.50 บาท
- อัพไซด์ 40.20%
4.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 20.10%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 33.56%
- ราคาเป้าหมาย 57.91 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 40.50 บาท
- อัพไซด์ 42.99%
5.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 16.67%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 26.32%
- ราคาเป้าหมาย 36.38 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 26.00 บาท
- อัพไซด์ 39.92%
6.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 14.61%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 19.46%
- ราคาเป้าหมาย 56.60 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 39.00 บาท
- อัพไซด์ 45.13%
7.บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) CKP
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี + 14.11%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 28.51%
- ราคาเป้าหมาย 4.73 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 3.72 บาท
- อัพไซด์ 27.15%
8.บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BPP
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 13.79%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 11.59%
- ราคาเป้าหมาย 17.32 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 12.30 บาท
- อัพไซด์ 40.81%
9.บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) GUNKUL
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี - 9.29%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - 46.67%
- ราคาเป้าหมาย 3.89 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 2.54 บาท
- อัพไซด์ 53.15%
10.บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) TPIPP
- ผลตอบแทนราคา 1 ปี -3.53%
- ผลตอบแทนราคาสิ้นปี 66 - %
- ราคาเป้าหมาย 3.85 บาท
- ราคา 19 มิ.ย.2567 ที่ 3.26 บาท
- อัพไซด์ 18.10%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์