BANPU ขายหุ้น Chaffee และสินทรัพย์ใน Chelsea แล้วเสร็จ มูลค่ารวม 4.8 พันล้าน
BANPU เสร็จสิ้นการจําหน่ายหุ้นในบริษัท BKV Chaffee Corners และการจําหน่ายสินทรัพย์ที่ BKV ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการผลิตใน Chelsea, LLC ทั้งสองรายการเกิดขึ้น 14 กับ 28 มิ.ย. 67 เป็นมูลค่ารายการรวมประมาณ 4.8 พันล้านบาท หวังนำเงินที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติ
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) (BANPU) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทเสร็จสิ้นการจําหน่ายหุ้นในบริษัท BKV Chaffee Corners, LLC (Chaffee) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BKV Corporation (BKV) และการจําหน่ายสินทรัพย์ที่ BKV ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการผลิตใน Chelsea, LLC (Chelsea) โดย BKV เป็นบริษัทย่อยที่บ้านปูถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 96.38 โดยมีรายละเอียดดังนี้
-วันที่ 14 มิถุนายน 2567 BKV ได้จําหน่ายหุ้นในบริษัท Chaffee ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ BKV ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการผลิต
โดยมีปริมาณสํารองก๊าซธรรมชาติ 1P จํานวน 122 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (ปริมาณสํารองตามวิธี NYMEX ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) ครอบคลุมพื้นที่ 9,793 เอเคอร์ และมีหลุมก๊าซธรรมชาติจํานวน 116 หลุม (หรือเทียบเท่า 24 หลุมตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ) ในบริเวณรัฐเพนซิลเวเนียตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ NEPA โดยราคาขายตามสัญญาอยู่ที่ 105.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯและราคาที่จําหน่ายจริงมีมูลค่า 106.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 3,917 ล้านบาท)
-วันที่ 28 มิถุนายน 2567 BKV ได้จําหน่ายสินทรัพย์ที่เป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่ง BKV ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการผลิตใน Chelsea
โดยมีปริมาณสํารองก๊าซธรรมชาติ 1P จํานวน 35 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (ปริมาณสํารองตามวิธี NYMEX ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) ครอบคลุมพื้นที่ 6,770 เอเคอร์ และมีหลุมก๊าซธรรมชาติจํานวน 214 หลุม (หรือเทียบเท่า 15 หลุมตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ) โดยตั้งอยู่ในบริเวณ NEPA เช่นกัน มีราคาขายตามสัญญาและราคาที่จําหน่ายจริง 25.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 917 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ภายหลังการจําหน่ายดังกล่าว BKV ยังคงมีพื้นที่การดําเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติใน NEPA ครอบคลุมประมาณ 19,800 เอเคอร์
โดย BKV ทําการลงทุนใน Chaffee ในปี 2559 และ Chelsea ในปี 2560 ทั้งนี้การจําหน่ายหุ้นและสินทรัพย์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นส่วนหลักและ BKV ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการผลิต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพอร์ตโฟลิโอโดยรวม โดย BKV สามารถนําเงินทุนที่ได้จากการจําหน่ายไปเพื่อพัฒนาและต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่เป็นสินทรัพย์หลักและให้ผลตอบแทนสูง