ตัวชี้วัด’บัฟเฟตต์’ เตือนหุ้นสหรัฐแพง มูลค่าสูงเกินช่วงวิกฤติ’ดอทคอม’

ตัวชี้วัด’บัฟเฟตต์’ เตือนหุ้นสหรัฐแพง มูลค่าสูงเกินช่วงวิกฤติ’ดอทคอม’

‘Buffett Indicator’ เครื่องชี้วัดของ’วอร์เรน บัฟเฟตต์’ สะท้อนตลาดหุ้นสหรัฐแพงเกินไปแล้ว หลังพุ่งแตะ 200% ถูกประเมินค่าสูงเกินจริงยิ่งกว่าช่วงฟองสบู่ดอทคอม ปี 2000

เว็บไซต์เบนซิงการายงานอ้างถึง "ดัชนีบัฟเฟตต์”หรือ Buffett Indicator ที่เป็นตัวประเมินมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐได้ส่งสัญญาณเตือนว่าตลาดหุ้นสหรัฐแพงเกินมูลค่าและสูงกว่าช่วงวิกฤติฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปี 2000 แล้ว

Buffett Indicator คือตัวชี้วัดที่ “วอร์เรน บัฟเฟตต์”นักลงทุนชื่อดังใช้เปรียบเทียบมูลค่ารวมของหุ้นทั้งหมดที่มีการซื้อขายในตลาดกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดว่าหุ้นนั้นถูกประเมินค่าสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปในราคาปัจจุบัน

ตัวอย่างการใช้ Buffett Indicator ประเมินมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ซึ่งมักนำดัชนี Wilshire 5000 เป็นดัชนีอ้างอิงในการวัดผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ เพราะครอบคลุมบริษัทกว่า 3,000 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 70% ของมูลค่าตลาดรวม

จากข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่าปัจจับันอัตราส่วนวิลเชียร์ 5000 ต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 195% ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนก่อนเกิดฟองสบู่ดอทคอม(Dot Com Bubble) ปี 2000 และวิกฤติการเงินโลก(Global Financial Crisis)ในปี 2007-2008 

ทั้งนี้ การที่ Buffett Indicator กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหมายความว่ามูลค่ารวมของหุ้นทั้งหมดที่มีการซื้อขายในตลาดมีค่าสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ 

ย้อนไปในปี 2000 เมื่อหุ้นอินเทอร์เน็ตอย่าง Pets.com มีระดับการเก็งกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ ดัชนีบัฟเฟตต์อยู่ที่ประมาณ 140% และดัชนีเคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเมื่อปี 2020 ที่ทะลุ 200% ก่อนที่ดัชนี S&P 500 จะถูกเทลงกว่า -20% ในปีถัดไป

อ้างอิง finance.yahoo