‘แนสแด็ก 100’ ดิ่งหนัก มูลค่าหายวับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ กังวล ‘ฟองสบู่ AI’

‘แนสแด็ก 100’ ดิ่งหนัก มูลค่าหายวับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ กังวล ‘ฟองสบู่ AI’

‘แนสแด็ก 100’ ดิ่งหนัก มูลค่าหายวับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ กังวลหุ้นบิ๊กเทคแพงเกินไปจนอาจเกิด ‘ฟองสบู่ AI’ กดดัชนีหุ้น 7 นางฟ้าร่วง 5.9%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนี หุ้น Nasdaq 100 ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก จนสูญเสียมูลค่าตลาดไป 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในเทคโนโลยี AI นำโดย หุ้นอินวิเดีย(Nvidia), ไมโครซอฟท์(Microsoft) และ แอปเปิ้ล(Apple)

นักลงทุนในตลาดตอบสนองในเชิงลบต่อการรายงานผลประกอบการ โดยหุ้นอัลฟาเบท (Alphabet ) บริษัทแม่ของกูเกิลลดลง 5% หลังแสดงค่าใช้จ่ายลงทุนสูง และการขาดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการรถยนต์ไร้คนขับของ เทสลา(Tesla) ทำให้หุ้นร่วงถึง 12% 

การขายหุ้นครั้งรุนแรงส่งผลให้ดัชนีบลูมเบิร์กของหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 7 บริษัท หรือ “หุ้น 7 นางฟ้า” ร่วงลง 5.9% แรงสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.แม้ว่าจะยังเพิ่มขึ้น 33% นับตั้งแต่ต้นปี

อเล็ก ยัง หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Mapsignals แสดงให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับ AI โดยเฉพาะเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งได้ทุ่มเทเงินจำนวนมากในการพัฒนา และขยายขีดความสามารถด้าน AI 

นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการเติบโตของหุ้น AI อาจเป็น “ฟองสบู่” ที่กำลังจะแตก โดยมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีหลายตัวอยู่ในระดับสูงเกินจริงเมื่อเทียบกับกำไรที่คาดการณ์ จนทำให้มูลค่าของ S&P 500 เพิ่มขึ้นถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์

  • Nvidia มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรที่คาดการณ์ใน 12 เดือนข้างหน้า (Forward P/E) อยู่ที่ 36 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ S&P 500 ที่ 21 เท่า
  • Apple และ Microsoft ก็มีอัตราส่วน Forward P/E สูงกว่า 30 เท่าเช่นกัน

จิม โคเวลโล หัวหน้าฝ่ายวิจัยหุ้นของ Goldman Sachs Group Inc. ได้แสดงความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระแสความคาดหวังสูงต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเขามองว่าความหวังดังกล่าวอาจสูงเกินจริงไปเล็กน้อย โคเวลโลตั้งคำถามถึงค่าใช้จ่ายมหาศาลที่บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการทำงานของ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงมองว่าหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงน่าสนใจในแง่ของการเติบโตของกำไร และความแข็งแกร่งของพื้นฐาน ทำให้ตลาดจับตารอผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่นๆ ที่จะรายงานในเร็วๆ นี้ เพื่อประเมินผลกระทบของ AI ต่อผลการดำเนินงานทางการเงินต่อไป

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์