หุ้น Meta ปิดบวก 7% หลังกำไรพุ่ง 73% แต่ Metaverse ยังขาดทุน 4 พันล้านดอลลาร์
หุ้น’เมตา’ปิดตลาดพุ่ง 7% หลังกำไรเพิ่มขึ้น 73% เผยรายได้โตเกินคาด เพิ่มขึ้นเกิน 20% 4 ไตรมาสติด ส่วนโปรเจกต์’เมตาเวิร์ส’ของซักเคอร์เบิร์กยังคงขาดทุน 4 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นเมตา (Meta) บริษัทแม่ของบริษัทแม่ของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ปิดตลาดพุ่งกว่า 7% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ออกมาดีเกินคาด
Meta รายงานกำไรสุทธิของ Meta ยังพุ่งสูงขึ้นถึง 73% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 13,470 ล้านดอลลาร์ (ราว 4 แสนล้านบาท) จากรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) เติบโตขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกันที่บริษัทสามารถทำรายได้เติบโตเกิน 20%
ผลประกอบการเติบโตจาก รายได้จากโฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากแพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook และ Instagram เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน
ลดต้นทุน-ลดพนักงานเพื่อเพิ่มกำไร
Meta เผยข้อมูลทางการเงินที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับโครงสร้างองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา อย่างแผนการลดต้นทุนที่เริ่มในปลายปี 2022 โดยการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 21,000 คน ได้ส่งผลให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มอัตรากำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ
แม้ว่า Meta จะตัดสินใจลดจำนวนพนักงานและค่าใช้จ่ายบางส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์ส(Metaverse)
แผนก Metaverse ขาดทุน 4 พันล้านดอลลาร์
หน่วย Reality Labs ของ Meta ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการพัฒนาเทคโนโลยีความจริงเสริมและเสมือนจริง (AR/VR) ได้บันทึกการขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 4.48 พันล้านดอลลาร์(1.5แสนล้านบาท)ในไตรมาสล่าสุด
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้ทุ่มเงินไปกับ Reality Labs มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อต้องการสร้างโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถใช้ชีวิตและทำงานร่วมกันได้
แม้ว่ารายได้ของ Reality Labs จะเติบโตขึ้น 28% แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา ทำให้หน่วยงานนี้ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ตลาด VR/AR เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ Apple เปิดตัว Vision Pro ซึ่งเป็นชุดหูฟัง VR/AR ราคาสูง ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์ และมีการรายงานว่าเริ่มจัดส่งไปยังจีนแล้ว ซึ่งมีราคาขายปลีกเริ่มต้นที่ 29,999 หยวน หรือ 4,128 ดอลลาร์
ค่าใช้จ่ายไตรมาส 2 สูงกว่าคาด
Meta เผยว่ามีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 24,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากมีการจ่ายค่าปรับจากคดีข้อมูลการจดจำใบหน้าที่ฟ้องร้องโดยรัฐเท็กซัสเป็นจำนวน 1,400 ล้านดอลลาร์
แม้ว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมจะสูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายด้านทุนของ Meta กลับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยอยู่ที่ 8.47 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 9.51 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Meta ยังคงยืนยันแนวโน้มค่าใช้จ่ายสำหรับปี 2567 จะอยู่ที่ 9.6- 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้น Meta ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เพิ่มขึ้นถึง 34% ในปีนี้ เคลื่อนไหวที่ราคา 507.45 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าดัชนี Nasdaq ที่เพิ่มขึ้นเพียง 17% เท่านั้น