แบล็กมันเดย์! หุ้นเอเชียร่วงโหด ญี่ปุ่น - ไต้หวัน ร่วงกว่า 6% เกาหลีใต้ดิ่ง 5%

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยดัชนี “นิกเคอิ 225” ร่วงลงกว่า 2,400 จุด สู่ระดับ 33,488.08 จุด ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังเปิดตลาด และหลังจากเปิดตลาดประมาณหนึ่งชั่วโมง ดัชนี Nikkei ร่วงลง 5.3% หรือราว 1,900 จุด สู่ระดับ 34,010.69 จุด เนื่องจากการเทขายหุ้นทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐอ่อนแอ

บริษัทใหญ่หลายแห่ง เช่น Mitsubishi, Mitsui and Co, Sumitomo และ Marubeni ทั้งหมดร่วงลงมากกว่า 10% ทำให้ดัชนี Topix ทำผลงานแย่ที่สุดในรอบ 8 ปี และดัชนี Nikkei มีวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 

เรียกได้ว่าในเชิงเทคนิคตลาดหุ้นญี่ปุ่นเข้าภาวะ “ตลาดหมี” โดยร่วงลงเกือบ 20% จากระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2567  ก่อนหน้านี้วันศุกร์ (2 ส.ค.67) ดัชนีนิกเคอิร่วงลงสู่ 35,909.70 ลดลง 2,216.63 จุด หรือ 5.81% ดังนั้นเจอแรงเทขาย 2 วันติดกว่า 4,000 จุด

ในช่วงเปิดตลาดวันนี้ “เงินเยน” ยังแข็งค่าขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ล่าสุดซื้อขายที่ 145.42 ต่อดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลการค้าที่สำคัญจากจีน และไต้หวันในสัปดาห์นี้ รวมถึงการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย และอินเดีย

ตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวลดลง โดย

• ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ลดลง 3.9% ในขณะที่ดัชนี Kosdaq ลดลง 3.5%
• ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 16,676.82 จุด ลดลง 268.69 จุด หรือ -1.58% และ
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,889.36 จุด ลดลง 15.98 จุด หรือ -0.55% ส่วน
• ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 2.3% และ

"3 ดัชนีโลก" ดิ่งหนัก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากรายงานการจ้างงานประจำเดือนกรกฎาคม ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ซึ่งจุดประกายความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจกำลังเข้าสู่ “ภาวะถดถอย”

Nasdaq เป็นดัชนีแรกในสามดัชนีหลักที่เข้าสู่ภาวะปรับฐาน โดยลดลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนี S&P 500 และ Dow ลดลง 5.7% และ 3.9% จากนิวไฮตามลำดับ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์