'แบล็กมันเดย์' ลาม ‘หุ้นยุโรป’ เปิดตลาดดิ่ง 2.5% กังวลเศรษฐกิจถดถอย
'แบล็กมันเดย์' ลามถึง ‘หุ้นยุโรป’ เปิดตลาด ดัชนี Stoxx 600 ดิ่ง 2.5% หุ้นเทคโนโลยีนำตลาดลดลงมากถึง 5% ผันผวนตามหุ้นโลก กังวลเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานความเคลื่อนไหว ตลาดหุ้นยุโรป เปิดตลาดร่วงลงกว่า 2.5% ท่ามกลางความผันผวนทั่วโลกที่รุนแรงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลดลง 2.34% ณ เวลา 8:52 น. ตามเวลาลอนดอน โดยทุกภาคส่วน และตลาดหลักในภูมิภาคต่างซื้อขายในแดนลบ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลงมากถึง 5% ในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะล่วงลงมาอยู่ที่ -2.8% นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ลดลง 3.65% ขณะที่หุ้นธนาคารลดลง 3.22%
ดัชนี Stoxx 600 อิงหุ้นขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ประมาณ 600 บริษัท จาก 17 ประเทศในยุโรป ซึ่งครอบคลุมเกือบ 90% ของมูลค่าตลาดหุ้นในยุโรป
ตลาดหุ้น ใน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก็ยังคงมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นเข้าสู่ "ตลาดหมี" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จาก ดัชนี Nikkei 225 ลดลง 12.4% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ส่วนดัชนี Topix ลดลงอย่างหนัก โดยลดลง 12.23%
ในขณะเดียวกัน "เงินเยน" แข็งค่าขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนมกราคม ล่าสุดเคลื่อนไหวที่ 143.55 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรป ได้จับตามองการประกาศผลประกอบการของบริษัทชั้นนำหลายแห่ง อาทิ Uniper, Infineon, Monte dei Paschi และ Palantir Technologies การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการชี้วัดความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจในยุโรป และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอีกหลายตัวเลข โดยเฉพาะดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ของสหราชอาณาจักร อิตาลี และสเปน ดัชนี PMI นี้เป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจยุโรป
ข้อมูลทั้งสองส่วนนี้ ทำให้วันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับตลาดหุ้นยุโรป ทำให้นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเอกชน และข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
