PTTEP คาดปริมาณขาย Q3/67 ย่อมาที่ 4.8 แสนบาร์เรล/วัน ปิดซ่อมบำรุงในอ่าวไทย

PTTEP คาดปริมาณขาย Q3/67 ย่อมาที่ 4.8 แสนบาร์เรล/วัน ปิดซ่อมบำรุงในอ่าวไทย

ปตท.สผ. คาดปริมาณขาย Q3/67 เฉลี่ยที่ 4.8 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน ย่อลงจาก Q2/67 เพราะปิดซ่อมบำรุงโครงการอ่าวไทยตามแผน แต่คงเป้าหมายทั้งปีไว้เฉลี่ย 5 แสนบาร์เรล และมองราคาน้ำมันดิบครึ่งปีหลังลดลงมาที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาก๊าซเข้าสู่ภาวะสมดุล

นางสาวอารดา วิชญวาณิช ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยในการให้ข้อมูล Opportunity Day ว่า คาดการณ์ปริมาณการขายของบริษัทในไตรมาส 3/2567 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 484,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากไตรมาส 2/2567 ที่ที่ 506,709 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากผลกระทบแผนการปิดซ่อมบำรุงโครงการในอ่าวไทย

อย่างไรก็ตามยังคงประเมินเป้าหมายปริมาณขายทั้งปี 2567 ไว้ตามเดิมที่เฉลี่ย 501,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

พร้อมกันนี้คาดการณ์ไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2567 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากไตรมาส 2/2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนทั้งปี 2567 ยังคงประเมินไว้ที่ระดับ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ทว่าครึ่งปีหลังมีการคาดการณ์ว่า การเติบโตของความต้องการน้ำมันเฉลี่ยทั้งโลกจะลดลงมาจาก 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสว่าจะมีการสานต่อนโยบายข้อตกลงลดกำลังการผลิตภาคสมัครใจที่จะสิ้นสุดไตรมาส 3/2567 ออกไปอีกหรือไม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวของประเทศอิหร่าน สถานการณ์ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และอีกปัจจัยสำคัญคือนโยบายด้านพลังงานของผู้ที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ช่วงปลายปีนี้
 

สำหรับแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติคาดทั้งไตรมาส 3/2567 เเละทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ 5.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MMBTU ใกล้เคียงไตรมาส 2/2567 ซึ่งอยู่ที่ 5.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MMBTU สำหรับครึ่งหลังของปี 2567 คาดว่าอุปสงค์และอุปทานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดโลกจะเริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุล

ขณะที่ต้นทุน (Unit Cost) คาดว่าจะรักษาระดับได้ที่ 28-29 ดอลลาร์สหรัฐต่อ BOE ซึ่งจะทำให้ปี 2567 นี้บริษัทมีอัตรากำไร EBITDA Margin อยู่ที่ 70-75% ใกล้เคียงปีก่อน

และยังคาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติจะเริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลในครึ่งปีหลัง ราคาเฉลี่ย LNG ทั้งปี 2567 ประเมินอยู่ที่ 9-13 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MMBTU

ขณะที่แผนการเติบโตของบริษัทใน 5-6 ปีจากนี้มุ่งเน้นเรื่องการเติบโตในต่างประเทศเนื่องจากแหล่งพลังงานในประเทศเริ่มมีจำกัดแล้ว โดยปัจจุบันบริษัมีการลงทุน 12 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 50 โครงการ

คาดการณ์สัดส่วนการผลิตจากต่างประเทศในปี 2573 จะอยู่ที่ 42% ขณะที่ในประเทศจะอยู่ที่ 58% จากปีปัจจุบันต่างประเทศอยู่ที่ 24% และในประเทศอยู่ที่ 76%