ก.ล.ต. เร่งปิดช่องโหว่จำนำหุ้น แก้ปมโยง WARRIX ทำธุรกรรมขายหุ้นนอกตลาด
ก.ล.ต. จี้ผู้บริหาร “วอริกซ์” รายงานข้อมูลเพิ่มเติมกรณีเปลี่ยนผู้ถือหุ้น หลังทำธุรกรรม “จำนำหุ้นนอกตลาด” แจงไม่เข้าข่ายมาตรา 59 ย้ำหากพบกระทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ พร้อมเอาผิดตามกฎหมายทันที เตรียมขึงกลไกสร้างความโปร่งใส แก้ประกาศฯ ปิดช่องโหว่คาดเห็นผลปีนี้
ภายหลังจาก บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า โดยนายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ในฐานะผู้ถือหุ้นลำดับแรกพบหุ้นตนเองที่ไปฝากคัสโตเดียนหาย 15 ล้านหุ้น แม้ไม่ได้ผิดนัดชำระเงินกู้ จึงรุดฟ้องทวงคืน พร้อมขออำนาจศาลอายัดที่เหลือ 105 ล้านหุ้น
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบและติดตามกรณีดังกล่าว ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยให้ทางศูนย์รับฝาก (TSD) ไปตรวจสอบติดตามการซื้อขายตามที่ผู้บริหารวอริกซ์ได้แจ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้ติดตามการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้น พบกรณีนี้เป็นธุรกรรมการนำหุ้นไปจำนำที่เกิดขึ้นนอกตลาดหุ้น โดยมีคู่สัญญา และเกิดข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน ดังนั้น กรณีเช่นนี้เอกชนต้องไปดำเนินการฟ้องร้องเอง
อีกทั้งพบว่า สำหรับการเปลี่ยนมือของหุ้นดังกล่าว ผู้ถือหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้บริหารมีหน้าที่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น ทาง ก.ล.ต. จึงให้บริษัทมีชี้แจ้งรายงานข้อมูล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอบริษัทรายงานข้อมูลให้ครบถ้วน หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ทาง ก.ล.ต.จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ยืนยันว่ากรณีนี้ ก.ล.ต. มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบ
ทั้งนี้ การนำหุ้นไปกู้ยืมนอกตลาด ยังไม่เกิดการครอบครองและรายงานข้อมูลตามมาตรา 59 ยังครอบคลุมไม่ถึงถือเป็นช่องโหว่ ซึ่ง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการศึกษาและวางกลไกที่ทำให้มีการเปิดเผยรายงานข้อมูลส่วนนี้ เพื่อสร้างความโปร่งให้กับนักลงทุนครบถ้วนมากขึ้น คาดหวังว่าอยากเห็นเป็นรูปธรรมภายในปีนี้
ขณะนี้การวางกลไกดังกล่าว ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ก.ล.ต. และหารือร่วมกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งกลไกสร้างความโปร่งใส จะมีมากกว่า 1 แนวทางแน่นอน และคาดว่าการบังคับใช้ให้รวดเร็ว ก.ล.ต. น่าจะเป็นการแก้ไขประกาศมากกว่า 1 ประกาศ ควบคู่กับการใช้อำนาจตามกฎหมายและประสานความร่วมมือกับทางตลาดทรัพย์ฯด้วย โดยจะมีการรับฟังความเห็นต่อสาธารณะ(เฮียริ่ง) ต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นกับผู้ร่วมตลาดที่กระทำอย่างถูกต้องโดยสุจริตอยู่แล้ว
เนื่องจากกรณีที่นำหุ้นไปกู้ยืมเงินนอกตลาดเป็นสิทธิของผู้กู้และผู้ให้กู้อยู่แล้ว แต่หากส่งผลความเสี่ยงต่อระบบ ก.ล.ต.ต้องปิดโหว่ ทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. จะร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความรู้กับผู้ที่ไปธุรกรรมนอกตลาด สร้างการตระหนักรับรู้ทั้งสองฝ่ายว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวต้องพิจารณาเงื่อนไขระหว่างผู้กู้นอกตลาดและนักลงทุน เจ้าของบริษัท อีกทั้งความเสี่ยงของธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง แนวทางนี้ ก.ล.ต.กำลังดำเนินการอยู่ในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมานี้
“ไม่ว่าอย่างไร การกู้ยืมหุ้นในตลาด หรือมาร์จิน และการกู้ยืมหุ้นนอกตลาด ถ้ามีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง บทบาทของก.ล.ต.ได้มีการตรวจสอบเชิงลึกอยู่แล้ว ขอให้นักลงทุนมั่นใจ แนวดังกล่าวคงป้องปรามการคนที่จะกระทำทุจริตได้ระดับหนึ่งแนวทางที่จะทำต้องมีการศึกษาให้ดี ในต่างประเทศมีหลายรูปแบบมากและไม่ให้เป็นภาระเพิ่มเติมกับคนที่กระทำสุจริตอยู่แล้ว”
นอกจากนี้ ในส่วนความคืบหน้าการเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. สั่งฟ้องนั้นอยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปถึงกฤษฏีกาแล้ว ซึ่งหากว่าผ่านก็จะมีการส่งเรื่องกลับมาที่ ก.ล.ต. อีกครั้ง และเสนอเรื่องไปยังกระทรวงการคลังพิจารณานำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
“เรื่องนี้นำเสนอมา 2-3 ปีแล้ว เรามีการปรับโครงสร้างและเพิ่มบุคคลากรรองรับการเป็นพนักงานสอบสวนไว้แล้วรอกฎหมายผ่าน พร้อมดำเนินการทันที จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับตลาดทุนไทย ที่จะเป็นแหล่งระดมทุนและออมเงิน หลายๆ มาตรการในฝั่งตลาดทุนไทยตอนนี้ได้นโยบายรัฐบาลเข้ามาเป็นผู้จุดประกาย ทั้งเรื่องของกฎหมายก็เช่นกัน หากเกิดการกระทำความผิดในตลาดทุนไทย เราก็เอาผิดได้ และรวดเร็วขึ้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดทุนไทย”
อย่างไรก็ตาม WARRIX แจ้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นว่า นายวิศัลย์ ถือหุ้น WARRIX ลดลงจาก 321,830,000 หุ้น หรือคิดเป็น 53.64% เหลือเพียง 186,676,470 หุ้น หรือคิดเป็น 31.11% และมีชื่อ DB AG SG DCS CLT ACC FOR SAFARI ASIA LIMIRED ถือหุ้น 105,211,000 หุ้น สัดส่วน 17.54%
วานนี้ (26 ส.ค.) ราคาหุ้น WARRIX ร่วงแรงปิดตลาดที่ 12.66% มาอยู่ที่ 4 บาท โดยทำราคาต่ำสุดของวันที่ 3.90 บาท และราคาสูงสุดของวันที่ 4.40 บาท