RML แจงข้อกล่าวหาตุกติกเพิ่มทุน ยันทำตามเกณฑ์ ไม่กระทบคืนหนี้หุ้นกู้ปี 67

RML แจงข้อกล่าวหาตุกติกเพิ่มทุน ยันทำตามเกณฑ์ ไม่กระทบคืนหนี้หุ้นกู้ปี 67

"ไรมอน แลนด์" โต้กลับข้อกล่าวหาจงใจเตะถ่วงแผนเพิ่มทุน ยืนยันทำตามเกณฑ์และยังอยู่ในกรอบเวลา 6 เดือน คาดขาย 714 ล้านหุ้น PPO ภายใน ต.ค. 67 และจ่อฟ้องกลับรายย่อยจอมแฉเหตุทำให้เสื่อมเสีย พร้อมยืนยันหุ้นกู้ทุกรุ่นปี 67 ชำระได้ เตรียมโรลโอเวอร์ รวมถึงมีแหล่งทุนสำรองแล้ว

นายสรพงษ์ มาเมือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า อ้างอิงถึงบทความที่เผยแพร่ในสื่อแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการเพิ่มทุนของบริษัท และการปฏิบัติตามกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) และ ตลท. 

บทความดังกล่าวยังกล่าวถึงความเชื่อมโยงที่อาจมีระหว่างการเพิ่มทุนและบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวได้รับข้อมูลจากผู้ถือหุ้นรายย่อยรายหนึ่ง (ถือหุ้นน้อยกว่า 1.00% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท) ที่มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบริษัท อันจะกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท

บริษัทขอยืนยันว่ากระบวนการเพิ่มทุนได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและมติที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างเคร่งครัด การจัดสรรและเสนอขายหุ้นได้รับการดำเนินการตามข้อกำหนดทางกฎหมายทุกประการ และบริษัทขอเน้นย้ำว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างการเพิ่มทุนและบุคคลภายนอกที่ถูกกล่าวถึงในสื่อ

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะรักษาความโปร่งใสและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อผู้ถือหุ้นรายดังกล่าวกรณีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือทำการใดๆ ที่อาจทำลายชื่อเสียงของบริษัทรวมถึงการกล่าวหาว่ามีการละเมิดกฎหมายต่อ ก.ล.ต.
 

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเพิ่มทุน โดยอ้างถึงการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,522,000,000 หุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.42 บาท รายละเอียดการจัดสรรหุ้นมีดังนี้

1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,622,000,000 หุ้นให้แก่บริษัท Woodchester Investing Capital Limited (Woodchester) คิดเป็นมูลค่ารวม 681,240,000 บาท 

2) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 900,000,000 หุ้นให้แก่นายพาที สารสิน คิดเป็นมูลค่ารวม 378,000,000 บาท จากการที่ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติ บริษัทได้ดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,522,000,000 หุ้นให้กับนักลงทุน PP ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 900,000,000 หุ้นให้แก่นายพาที สารสิน ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามที่ได้รับอนุมัติไว้

โดยระหว่างวันที่ 13 - 16 พฤษภาคม 2567 Woodchester ได้จองซื้อหุ้นจำนวน 1,380,952,381 หุ้น คิดเป็นเงินจำนวน 580,000,000.02 บาท หลังจากนั้นในวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 Woodchester ได้จองซื้อหุ้นเพิ่มอีกจำนวน 241,047,619 หุ้น คิดเป็นเงินจำนวน 101,239,999.98 บาท ครบตามจำนวนในส่วนของหุ้น PP ที่จะจัดสรรให้แก่ Woodchester 

คงเหลือแต่ในส่วนของนายพาที สารสิน ทั้งนี้บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเป็นจำนวน 1,380,952,381 หุ้น และ 241,047,619 หุ้น กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 และวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ตามลำดับ เป็นผลให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเป็น 7,760,769,842 บาท โดยมีทุนชำระแล้วเป็นจำนวน 5,794,484,127 บาท

จากธุรกรรมข้างต้น บริษัทได้รับเงินทุนรวมทั้งสิ้น 681,240,000 บาทจากการเพิ่มทุน ซึ่งได้ถูกจัดสรรเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การชำระหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับบริษัทและกิจการร่วมค้าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนและแผนการใช้เงินทุน

ความล่าช้าในการดำเนินการเพิ่มทุนเต็มจำนวนเกิดขึ้นจากสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน และผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องในการเพิ่มทุนจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการจัดหาเงินทุนที่จำเป็น 

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงตัดสินใจชะลอการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่จัดสรรให้แก่บุคคลที่จะทำให้บริษัทมีภาระหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (PreferentialPublic Offering : PPO) จำนวน 714,285,715 หุ้นออกไปก่อน 

ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของ ก.ล.ต. และ ต.ล.ท. ในการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน PPO ที่กำหนดให้บริษัทต้องเสนอขายหุ้นดังกล่าวภายใน 6 เดือนนับแต่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น 

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าการเสนอขายหุ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในเดือนตุลาคม 2567 โดยขึ้นอยู่กับสภาพตลาด สถานการณ์ทางการเงิน และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 

ในระหว่างนี้ บริษัทได้บริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและกำลังพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาสำหรับการเพิ่มทุนส่วนที่เหลือของกระบวนการเพิ่มทุนนี้โดยคำนึงถึงสภาวะตลาดและความไม่แน่นอนในราคาหุ้นของบริษัทและมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้นและการดำเนินการภายใต้สถานการณ์ที่เอื้ออำนวยที่สุด 

โดยการดำเนินการดังกล่าว บริษัทให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ระยะยาวของผู้ถือหุ้นและจะดำเนินการให้มั่นใจว่ากระบวนการเพิ่มทุนดำเนินไปอย่างราบรื่น

บริษัทขอยืนยันว่าการปรับปรุงระยะเวลานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงกระแสเงินสดและปรับเปลี่ยนระยะเวลาตามความจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากนี้บริษัทขอเรียนชี้แจงว่าความล่าช้าในการดำเนินการเพิ่มทุนเต็มจำนวนดังกล่าวจะไม่กระทบต่อแผนในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2567 โดยบริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ถึงกำหนดชำระ 

และนอกจากนี้หากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้บริษัทจะใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ได้จากการเพิ่มทุนรวมถึงใช้แหล่งเงินทุนจากยอดขายโครงการ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ (Tait Sathorn 12) และโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ (The Estelle Phrom Phong) ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ชองบริษัท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์ยูนิตที่เหลือทั้งหมดได้ในปี 2567 

รวมไปถึงเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการ และ/หรือ ผู้ถือหุ้น เพื่อเป็นแหล่งเงินที่บริษัทจะนำมาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2567 ทุกรุ่น