‘หุ้นอสังหาฯ - ไฟแนนซ์’ เด่นสุด ลุ้น ‘แบงก์ชาติ’ ปรับลดดอกเบี้ย
ธปท. เริ่มส่งสัญญาณการ “ลดอัตราดอกเบี้ย” โดย “กูรู” มุมมอง แบงก์ชาติน่าจะมีการลดดอกเบี้ยในรอบสุดท้ายเดือนธ.ค.2567 นี้ ‘หุ้นอสังหาฯ - ไฟแนนซ์’ รับอานิสงส์
ห้วงนี้ที่จับตาประเด็นสำคัญคงไม่พ้น “ธนาคารแห่งประเทศไทย” (ธปท.) ที่เริ่มส่งสัญญาณการ “ลดอัตราดอกเบี้ย” โดย “กูรู” ต่างมีมุมมองว่า แบงก์ชาติน่าจะมีการลดดอกเบี้ยในรอบสุดท้ายเดือนธ.ค.2567 นี้ ดังนั้น แน่นอนต้องมีกลุ่มธุรกิจที่ “ได้ประโยชน์” และ “เสียประโยชน์” ซึ่งถ้าโฟกัสไปที่หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์ และเป็นที่น่าสนใจ ยกให้ “กลุ่มอสังหาฯ” ที่ก่อนหน้านี้ถูกปัจจัยลบกดดันหลายด้าน ทั้งเรื่องสต็อกค้าง งบที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก อัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่เป็นเวลานาน ส่งผลราคาต่อหุ้นมีการปรับลดลงมาอย่างมาก อาจจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ ขณะที่ “กลุ่มไฟแนนซ์” ก็ได้รับการจับตาเช่นเดียวกันว่าอาจจะได้รับอานิสงส์จากการลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน
“อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในมุมมองของ บล.ทิสโก้ มองว่า ธปท.น่าจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากโมเมนตัมเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จะมี 2 แรงส่งคือ รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม และรอดูความชัดเจนนโยบายรัฐว่าจะทำอะไรเพิ่มหรือไม่ทำอะไร ขณะที่การท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และรอให้เฟดมีการลดอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน คาดมีโอกาสที่ ธปท.จะปรับลดดอกเบี้ย แต่ไม่ใช่ในปีนี้
ทั้งนี้หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ตลาดโดยรวมมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเซกเตอร์ที่จะได้รับโยชน์คือ เซกเตอร์ที่มีความอ่อนไหวตามอัตราดอกเบี้ย เช่น กลุ่มอสังหาฯ กลุ่มไฟแนนซ์ รวมถึงหุ้นปันผลที่มีความน่าสนใจมากขึ้น
“กรรณ์ หทัยศรัทธา” นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของไทยดูมีมากขึ้น หลังการประชุม ธปท.ล่าสุด ดูเหมือนว่า ผู้ว่าการ ธปท. เริ่มมีการโอนอ่อนไปในทางลดดอกเบี้ยมากขึ้น โดยการประชุม ธปท.จะเหลืออีก 2 รอบในปีนี้ แต่คาดว่าการประชุมในครั้งหน้าอาจจะยังไม่มีการลดดอกเบี้ย และเป็นไปได้จะลดดอกเบี้ยในครั้งสุดท้ายในเดือนธ.ค.2567 เนื่องจากเฟดคาดมีการลดดอกเบี้ยเดือนก.ย.นี้
ทั้งนี้ หาก ธปท.มีการลดดอกเบี้ย หุ้นกลุ่มอสังหาฯ และไฟแนนซ์ จะได้รับประโยชน์ แต่มุมมองชอบ อสังหาฯ มากกว่า เนื่องจากอสังหาฯ ราคาปรับตัวลงมามากกว่ากลุ่มไฟแนนซ์
ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์ยังมีเรื่องของเศรษฐกิจฐานรากหรือเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้นไม่เท่ากับในกรุงเทพฯ แต่ทว่ากลุ่มอสังหาฯ สามารถเลือกได้ว่า จะลงทุนในเซกเมนต์ใด
ส่วนการปรับเป้ากลุ่มอสังหาฯ มีการปรับลดลงมาแล้ว หลังจากที่ผ่านกลุ่มอสังหาฯ ได้รับความกดดันหลายด้าน ทั้งเรื่องสต็อกค้าง งบที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก อัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่เป็นเวลานาน และสินเชื่อแบงก์ปล่อยยากมากขึ้น
ทั้งนี้ หากมีการลดดอกเบี้ยจริง กลุ่มดังกล่าวจะปรับตัวเด้งขึ้นมาได้ อีกความเสี่ยงหนึ่งที่ต้องระวังคือ การเกิดน้ำท่วมแก้ไขไม่ได้อาจจะเกิดปัญหาได้เช่นกัน
ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนส่วนใหญ่มาจากรถ บ้าน และบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อใหม่ธนาคารมีการเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากมีการติดตามงบธนาคารอยู่ประมาณ 10 หลักทรัพย์ เห็นว่า สินเชื่อไม่ค่อยมีการเติบโตสักเท่าไร ดังนั้นดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมีการเปลี่ยนมาแจกเป็นเงินสดต้องรอดูว่า เมื่อแจกไปแล้วหนี้ครัวเรือนจะลดลงหรือไม่
“ภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า เทรนด์ยังดูสอดคล้องกับที่ทาง ธปท.ได้กล่าวไว้ โดยโทนการประชุม กนง.ในรอบล่าสุดดูเหมือนว่ายังไม่ได้ปิดตายในเชิงของการลดอัตราดอกเบี้ย ในเชิงของสภาพหนี้ครัวเรือนของรายย่อย น่าจะมีการปรับลดลงในช่วงปลายปีนี้ หรือในรอบการประชุม 18 ธ.ค.นี้ ส่วนในรอบประชุม ต.ค.67 ยังจะไม่มีการลดดอกเบี้ย
เนื่องจาก ธปท.อาจจะยังคงอยากดูข้อมูลนำมาประกอบในเชิงสภาพของสินเชื่อ กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะโดนกดดันมีการใส่ไว้ในประมาณการหากปรับลดดอกเบี้ยจะกระทบรายได้สุทธิ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะมีพัฒนการที่ดีขึ้น แต่ทว่ากลุ่มนอนแบงก์จะได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย ต้นทุนการเงินที่ลดลง รวมถึงกลุ่มเช่าซื้อจะขยายตัวได้ดีขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์