ลดความเสี่ยงพอร์ตหุ้น กระจายลงทุนด้วยอนุพันธ์
อนุพันธ์เป็นอีกเครื่องมือสำหรับผู้ลงทุนที่ช่วยกระจายการลงทุนและบริหารพอร์ตหุ้น นอกจากโกลด์ฟิวเจอร์สแล้ว ในตลาด TFEX ยังมีอนุพันธ์ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงสินทรัพย์อื่นๆ อีก เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินญี่ปุ่น ค่าเงินยูโร ผู้ลงทุนสามารถใช้อนุพันธ์เหล่านี้เป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุนได้
เมื่อพูดถึงอนุพันธ์ หรือ TFEX หลายท่านอาจไม่ไห้ความสนใจด้วยเห็นว่าเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงสูง แต่ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนเช่นในปัจจุบัน แนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้อย่างชัดเจน การเรียนรู้เพื่อใช้ประโยชน์จากอนุพันธ์ให้เหมาะสมกลับเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นได้อย่างสะดวก เพราะผู้ลงทุนสามารถใช้อนุพันธ์เพื่อกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นเพิ่มเติม ช่วยให้พอร์ตหุ้นที่ผู้ลงทุนมีอยู่ไม่ต้องพึ่งพาเพียงผลตอบแทนจากหุ้นเท่านั้น ในช่วงที่ตลาดหุ้นไม่มีสัญญาณขาขึ้น การปรับพอร์ตเพื่อกระจายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น จะช่วยลดผลกระทบที่ได้รับจากสภาวะของตลาดและเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการกระจายไปในสินทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวของราคาที่แตกต่างจากหุ้นไทย ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ที่มีราคาขึ้นกับตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือค่าเงิน
จากแนวคิดข้างต้นนี้ หากลองย้อนดูการเคลื่อนไหวของราคา SET50 Index และราคาทองคำ จะสังเกตเห็นได้ว่าราคามีการเคลื่อนไหวสวนทางกัน โดยในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา พบว่าพอร์ตที่ลงทุนในหุ้น SET50 อย่างเดียวขาดทุน 11% ขณะที่พอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นและทองคำอย่างละเท่าๆ กันสามารถทำกำไรได้ 10%
ในทางปฏิบัตินั้น หากพอร์ตลงทุนมีการลงทุนในหุ้นเต็มที่อยู่แล้ว การปรับพอร์ตเพื่อกระจายการลงทุนและลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตนั้น อาจทำได้โดยพิจารณาขายหุ้นที่มีกำไรหรือหุ้นที่ขาดทุนซึ่งประเมินแล้วว่ายังไม่มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นออกไป โดยเก็บหุ้นที่ยังมีศักยภาพการเติบโตหรือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและต้องการถือเพื่อรอรับเงินปันผลเอาไว้ แล้วนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นไปกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่น ซึ่งในการปรับพอร์ตนี้ผู้ลงทุนอาจมีทางเลือกได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินที่ขายหุ้นได้ไปซื้อสินทรัพย์โดยตรงหรืออาจใช้อนุพันธ์ช่วยสร้างผลตอบแทนได้เช่นเดียวกับสินทรัพย์ที่ต้องการ ข้อดีของการใช้ในอนุพันธ์เป็นเครื่องมือแทนที่จะนำเงินไปลงทุนซื้อสินทรัพย์นั้นโดยตรงคือ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเต็มมูลค่าของสินทรัพย์ ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องขายหุ้นออกไปในมูลค่าที่สูงมาก หรืออีกนัยหนึ่งสามารถเก็บหุ้นในพอร์ตที่ยังต้องการถือครองไว้ได้มากพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการกระจายพอร์ตไปลงทุนในทองคำน้ำหนัก 10 บาท ก็สามารถใช้การซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สมูลค่าทองคำ 10 บาท จำนวน 1 สัญญา ซึ่งใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาท เพื่อวางเป็นหลักประกัน พอร์ตของผู้ลงทุนก็จะมีผลตอบแทนเสมือนกับลงทุนในทองคำน้ำหนัก 10 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้อนุพันธ์จะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อย เพราะการวางหลักประกันก่อนซื้อขายใช้เงินเพียง 5-20% ของมูลค่าสัญญา แต่ในทุกๆ วันจะมีการคิดกำไรขาดทุนจากการถือครองอนุพันธ์ซึ่งเกิดขึ้นจากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น แม้ว่าผู้ลงทุนจะมองทิศทางถูก แต่หากสินทรัพย์มีราคาผันผวนสูง ก็มีโอกาสที่หลักประกันในระยะสั้นจะไม่เพียงพอจนถูกเรียกให้นำเงินไปวางเป็นหลักประกันเพิ่มได้ ผู้ลงทุนจึงควรมีการเผื่อเงินสำหรับการวางหลักประกัน เพื่อลดโอกาสที่จะถูกเรียกเงินเพิ่มจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น นอกจากนี้ ผู้ลงทุนควรมีการติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
เห็นได้ว่า อนุพันธ์เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับผู้ลงทุนในการนำมาช่วยกระจายการลงทุนและบริหารพอร์ตหุ้น โดยนอกจากโกลด์ฟิวเจอร์สแล้ว ในตลาด TFEX ยังมีอนุพันธ์ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงสินทรัพย์อื่นๆ อีก เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินญี่ปุ่น ค่าเงินยูโร ซึ่งผู้ลงทุนก็สามารถใช้อนุพันธ์เหล่านี้เป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุนได้เช่นเดียวกัน โดยผู้สนใจสามารถเริ่มต้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในอนุพันธ์ได้ที่ www.setinvestnow.com หรือ www.tfex.co.th หรือติดต่อโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ