ก.ล.ต.ลุยนำ‘งานวิจัยมากำหนดนโยาย’ พัฒนาตลาดทุนไทย หมุนระบบเศรษฐกิจประเทศ

ก.ล.ต.ลุยนำ‘งานวิจัยมากำหนดนโยาย’ พัฒนาตลาดทุนไทย หมุนระบบเศรษฐกิจประเทศ

ก.ล.ต. เดินหน้า นำงานวิจัยมากำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยและแก้ไขปัญหาลดความเสี่ยง สร้างความเชื่อมั่น ย้ำเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อเศรษฐกิจ มีโอกาสมาร์เก็ตแคปโตเกิน 2 เท่าของจีดีพี

บนเวทีงานสัมมนา SEC capital market symposium  2024 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) “ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถมาประธานกรรมการ สำนักงานก.ล.ต. ” กล่าเปิดงานสัมมนาและสะท้อนมุมมองของงานวิจัยเพื่อกำหนดนโยบายการพัฒนาตลาดทุนไทย ว่า ในระยะข้างหน้า “ตลาดทุนไทย“  ยังมีเผชิญท้้ง ”ความเสี่ยงและความท้าทาย“   ท่ามกลางโลกเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างเอไอ และภายหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรอบนี้ ความผันผวนในตลาดทุนและสินทรัพย์อื่นๆยิ่งเร็วขึ้น

ดังนั้น การตั้งโจทย์ของงานวิจัยเพื่อกำหนดนโยบายการพัฒนาตลาดทุนไทย  หากเป็นบริบทของการแก้ปัญหา คงไม่ได้มีเวลามากมายอีกต่อไป และการกำหนดโจทย์ที่ถูกต้อง จะนำไปสู่งานวิจัยที่ดีและนำไปปฏิบัติได้จริง เช่น การจำนำหุ้น 

อีกทั้ง การนำความรู้ มาใช้ในการบริหารจัดการ มองว่า ยังช่วยทำให้ความเสี่ยงของตลาดทุนไทยแข้างละผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยในระยะข้างหน้าลดลง  นอกจากนี้ หากมีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลตลาดทุนไทยให้มีความลึกขึ้นและชัดเจนขึ้น เพื่อสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์เศรษฐกิจดิจิทัล และทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

 

เราเชื่อมั่นว่า ขนาดของตลาดทุนไทย โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization)  มีโอกาสเติบโตมากกว่า น 2 เท่าของขนาดจีดีพีประเทศไทย 

ก.ล.ต.ลุยนำ‘งานวิจัยมากำหนดนโยาย’ พัฒนาตลาดทุนไทย หมุนระบบเศรษฐกิจประเทศ

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวปาฐกถา เรื่อง”ความสำคัญของงานวิจัยเพื่อกำหนดนโยบายการพัฒนาตลาดทุน“  ว่า ปัจจุบันขนาดของตลาดทุน ซึ่งวัดโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด สูงเกิน 2 เท่า ของขนาดจีดีพีประเทศแล้ว ถือว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดระดมทุนอื่นๆ  เช่น หุ้นกู้เอกชน  พันธบัตรรัฐบาลและสินเชื่อสถาบันการเงินสะท้อนตลาดทุนไทยเป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งภาครัฐ อุตสาหกรรมเรียลเซกเตอร์ ภาคเอกชนและรายย่อย 

สำหรับขนาดของตลาดทุน ซึ่งวัดโดย Market Capitalization เป็นของตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าประมาณ 17.97 ล้านล้านบาท ผลิตภัณฑ์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหุ้นใน SET 639 บริษัท ตลาด mai 222 บริษัท ตลาด Livex 6 บริษัท และ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด (TDX มี 1 โทเคน 

ส่วนตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่าคงค้างของหุ้นกู้เอกชน ประมาณ 4.58 ล้านล้านบาท และมูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ภาครัฐ มีมูลค่าประมาณ 12.45 ล้านล้านบาท เงินให้สินเชื่อของธนาคาร มีมูลค่าประมาณ 18 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนก.ย. 2567)

ขณะที่งานวิจัยของ ก.ล.ต. เพื่อกำหนดนโยบายการพัฒนาตลาดทุน มี 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้ความสำคัญกับงานวิจัย 2.นำงานวิจัยมาใช้ มากำหนดนโยบาย 3.ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานวิจัย นำงานวิจัยมาใช้อย่างเป็นประโยชน์

อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนไทยยังเผชิญความท้าทาย ทั้งความเสี่ยงและโอกาส รวมทั้งรับการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ขณะเดียวกัน การเข้าสู่สังคมสูงวัย ตลาดทุนจะเป็นช่องทางสร้างความมั่งคัง (Wealth) ให้ประชาชนได้ แม้ไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ยังมีรายได้

ส่วนปัจจัยท้าทายภายใน เป็นเรื่องความสามารถในการแข่งขัน การหาผู้ระดมทุนธุรกิจใหม่ที่เป็นธุรกิจที่เติบโตเข้ามาจดทะเบียนให้มากขึ้น

“อยากให้มั่นใจ ก.ล.ต. ไม่ได้มีอคติ มุ่งกำกับและส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและคนไทยมีเวลธ์ที่ดีขึ้น”