หุ้นสหรัฐ'ปิดลบ'ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า
หุ้นสหรัฐลดลงก่อนวันขอบคุณพระเจ้าหนึ่งวัน ขณะหุ้น Nvidia และ Dell ร่วงแรง เงินเฟ้อ PCE ต.ค.ตามคาด เชื่อเฟดลดดอกเบี้ยต่อ
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงในวันพุธหรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นบางส่วนเพื่อทำกำไร หลังจากที่หุ้นปรับตัวขึ้นสูงมาก ในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่รายงานเงินเฟ้อ PCE ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จับตาดูเพิ่มขึ้น 2.3 % ตามที่ตลาดคาด นักวิเคราะห์เชื่อหนุนเฟดลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.38% ปิดที่ 5,998.74 จุด หยุดสถิติการขึ้นติดต่อกัน 7 วัน ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.6% ปิดที่ 19,060.48 จุด ส่วนดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 138.25 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 44,722.06 จุด โดยพลิกกลับทิศทางหลังจากซื้อขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 140 จุดในช่วงสูงสุดก่อนวันขอบคุณพระเจ้า
นักลงทุนดูเหมือนจะเทขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ทำผลงานได้ดีในปีนี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่า ทำไม Nasdaq ถึงลดลง หุ้นบริษัทผู้ผลิตชิปเอไอ Nvidia ซึ่งพุ่งขึ้นมากกว่า 173% ในปีนี้ ร่วงลงมากกว่า 1% หุ้น บริษัทแม่เฟซบุ๊ก Meta Platforms ลดลง 0.8% หลังราคาพุ่งขึ้นราว 60% ในปีนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Dell และ HP ร่วงลงมากกว่า 12% และ 11% ตามลำดับ หลังจากแจ้งแนว โน้มกำไรที่อ่อนแอ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์การซื้อขายที่สั้นลงในสหรัฐ โดยตลาด จะปิดทำการในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดี และเตรียมปิดตลาดเร็วขึ้นในวันศุกร์ ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กลดลงประมาณหนึ่งในห้าจากวันปกติ
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ยังคงเป็นสัปดาห์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากดัชนี Dow และ S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด เป็นประวัติการณ์ โดยขณะนี้ดัชนี Dow กำลังจะปิดสัปดาห์ ด้วยดัชนีที่สูงขึ้นประมาณ 1% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้นประมาณ 0.5% และ 0.3% ตามลำดับในสัปดาห์นี้ สำหรับการซื้อขายในเดือนพฤศจิกายน หุ้นได้พุ่งขึ้นแรงหลังการเลือกตั้งจากชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเทรดเดือนนี้จะสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้เช่นกัน ดัชนี ดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 7% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือ เป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนสูงสุดในปีนี้ โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 5%
- คาดเฟดลดดอกเบี้ยต่อ หลังระดับเงินเฟ้อ PCE ตามคาด
การเคลื่อนไหวของตลาดในวันพุธ เกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่เงินเฟ้อ ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ PCE ของเดือนตุลาคมที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันพุธ โดยดัชนี เงินเฟ้อ PCE ที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนตุลาคมจากเดือนก่อนหน้า และ 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำการสำรวจโดยดาวโจนส์ หากไม่นับรวม หมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อ เทียบเป็นรายเดือนและ 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งยังสอดคล้องกับการคาดการณ์โดยทั่วไป
“ข้อมูลในวันนี้ไม่ควรเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มการชล อลงของอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าจะดูไม่ราบรื่นบ้างก็ตาม แต่ผู้สังเกตการณ์จำนวนมาก รวมถึงบางคนที่เฟด กำลังมอง หาเหตุผลที่จะใช้นโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ทำให้เงินเฟ้อสูง ขึ้น เช่น การขึ้นภาษีศุลกากรใหม่” เดวิด อัลคาลีหัวหน้านักกลยุทธ์เศรษฐกิจมหภาคจากบริษัทหลัก ทรัพย์จัดการกองทุน Lazard Asset Management กล่าว
ด้านสก็อตต์ เฮล์ฟสเตน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Global X กล่าวว่าข้อมูล เงินเฟ้อของวันพุธซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ถือเป็นการ อัปเดตก่อนวันหยุดของธนาคารกลางสหรัฐที่น่ายินดี
“นี่เป็นของขวัญวันแบล็กฟรายเดย์ที่ดีสำหรับเฟด” เขากล่าว “พวกเขาสามารถกินไก่งวงและดูฟุตบอลได้ทั้งวันโดยรู้ว่า พวกเขาใกล้จะถึงเป้าหมายการจ้างงานเต็มที่และเสถียรภาพ ด้านราคา” เฮล์ฟสเตน กล่าวและว่าตัวเลขดังกล่าว “ใกล้เคียง” กับเป้าหมาย ของเฟดมาก นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวไม่น่า จะเปลี่ยนแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ย มีโอกาสที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25 %ในการประชุมเดือนธันวาคม