SCC ยังเหนื่อย คาดงบไตรมาส 4/67 พลิกขาดทุน 1,100 ล้านบาท หดแรง 41%
บล.ลิเบอเรเตอร์ เผยหุ้น SCC ยังเหนื่อย คาดงบไตรมาส 4/67 พลิกขาดทุน 1,100 ล้านบาท หดแรง 41% กลุ่มปิโตรฯ ยังแย่จากตามส่วนต่างราคาที่หดตัว ส่วนซีเมนต์ทรงตัว
นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า งบหุ้น SCC ไตรมาส 4/67 คาดจะพลิกขาดทุน -1,100 ล้านบาท หดแรง -41% q-q จากทุกหน่วยหดตัวพร้อมๆ กัน
โดยกลุ่มซีเมนต์ ยอดขาย 2 เดือนแรกทำได้ดีจากรัฐบาลมาใช้งบลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายโต y-y แต่เดือนสุดท้ายยอดขายหดตัวทำให้แนวโน้มยอดขายขยายตัว +5% y-y แต่ทรงตัว q-q ขณะที่ กลุ่มวัสดุตกแต่ง พบว่ามีการแข่งขันจากจีนมากขึ้นทำให้ SCC เน้นหาตลาดใหม่ๆ มาทดแทน ส่วนในไทยจะเน้นการขายแบบ solution เพื่อลดปัญหาการแข่งขัน
กลุ่มปิโตรเคมี ผู้บริหารแจ้งว่าอุตสาหกรรมปิโตรฯ เริ่มเห็นผู้ประกอบการบางรายหยุดผลิตจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ไม่คุ้มค่าต่อการผลิต รวมถึงโรงงานในจีนมีการระงับโครงการออกไป และได้รับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาลด้วย แต่ในส่วนของ SCC ได้หยุดผลิตที่ LSP เช่นกันเนื่องจากโรงงานดังกล่าวจะผลิตได้แต่สินค้าทั่วไปซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ ทำให้ไม่คุ้มค่าต่อการผลิต แต่จะยังมีต้นทุนคงที่ 950 ล้านบาทต่อเดือนกดดันอยู่ แต่จะหันมาใช้กำลังการผลิตเพิ่มในไทยแทน ประกอบกับ SCC ได้ลูกค้าใหม่ในเวียดนามซึ่งมาผลิตในไทย ทำให้การใช้กำลังการผลิตของ SCC จะดีกว่าอุตฯ อย่างไรก็ตาม จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ใน 4Q24 ที่หดตัวเหลือ 316 ดอลลาร์/ ตัน จาก 323 ดอลลาร์/ ตัน ทำให้การดำเนินงานก็ยังขาดทุนอยู่
กลุ่มบรรจุภัณฑ์ คาดการดำเนินงานหดตัวลง q-q เช่นกัน แม้จะได้ผลบวกจากการส่งออก และท่องเที่ยวหนุนให้การใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น แต่ไตรมาสนี้จะรับรู้ขาดทุนจาก Fajar เต็มไตรมาส หลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 99.72% ตั้งแต่ก.ย.2024 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ไตรมาส 4/67 คาดการดำเนินงานยังแย่จากกลุ่มปิโตรฯ ตามส่วนต่างราคาที่หดตัว ส่วนซีเมนต์ทรงตัว ส่วนกระดาษรับรู้ขาดทุนเต็มไตรมาสของ Fajar โครงการอีเทนใน LSP คาดแล้วเสร็จปี 2027 ด้วยเงินลงทุน 700 ล้านดอลลาร์ มีความคืบหน้า คาดเห็นการตัดธุรกิจที่ไม่สร้างกำไรออกไป
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการดำเนินงานปี 68 จะฟื้นตัว แต่คาดจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพราะอุปสงค์ยังไม่กลับมาอย่างที่คาด คงรอดูสิ่งที่ SCC จะดำเนินการเพื่อช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ จะส่งผลได้เท่าไร รวมถึงการดำเนินงานของ Fajar จะถึงจุดคุ้มทุนได้เมื่อไหร่ และรอผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนด้วยอีกทาง
นอกจากนี้ แม้ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/BV ที่เพียง 0.50 เท่า สะท้อนปัจจัยลบของการดำเนินงานมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่ทุกอย่างดูช้ากว่าที่คาดทำให้อาจไม่ใช่ตัวเลือกต้นๆ ในมุมมองของหุ้น Turnaround
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์