ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 350 จุด แนสแด็กปิดลบ นักลงทุนออกจากหุ้นเทคฯ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 350 จุด  แนสแด็กปิดลบ นักลงทุนออกจากหุ้นเทคฯ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ แซงหน้าตลาด ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง เนื่องจากผู้ค้ายังคงเทขายหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ๆ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดกระทิงในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คาดยังไม่มีความเสี่ยงภาวะตลาดหมี

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะการซื้อขาย ตลาดหุ้นสหรัฐ ว่า ในวันจันทร์ (13 ม.ค.68) ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones) ซึ่งมีหุ้น 30 ตัว เพิ่มขึ้น 358.67 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 42,297.12 จุด เนื่องจากนักลงทุนหันไปซื้อหุ้นที่ไม่ใช่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Caterpillar, JPMorgan และ UnitedHealth

ในขณะเดียวกัน ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ลดลง 0.38% เหลือ 19,088.10 จุด ด้าน ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.16% ปิดที่ 5,836.22 จุด ดัชนีทั้งสามปรับตัวลดลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นเทคโนโลยีนำตลาดลดลงเป็นส่วนใหญ่ 

ทั้งนี้ หุ้น Palantir และ Nvidia ซึ่งเป็นหุ้นชั้นนำในตลาดกระทิงที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนรายย่อย ร่วงลงมากกว่า 3% และเกือบ 2% ตามลำดับ โดยไหลลงต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว Nvidia ร่วงลงเกือบ 6% ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ Palantir ร่วงลงแรง มากกว่า 15% หุ้นเทคโนโลยียอดนิยมอื่นๆ รวมถึง Apple และ Micron ต่างก็ร่วงลงเช่นกัน

ในขณะที่หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลง กลุ่มพลังงานเอาชนะตลาดโดยรวม และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มการดูแลสุขภาพ และวัสดุยังปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหนึ่งในปัจจัยเร่งการเทขายหุ้นเติบโต อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีในวันจันทร์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 โดยปิดวันด้วยระดับ 4.79% อัตราผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้นในวันศุกร์หลังจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับล ดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐ

“ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 5% ผมคิดว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวได้ยากมาก จนกว่า อย่างน้อยสุด อัตราดอกเบี้ยจะมีเสถียรภาพ” อดัม เทิร์นควิสต์ หัวหน้านักกลยุทธ์ทางเทคนิคของบริษัทหลักทรัพย์ LPL Financial กล่าว

“เราไม่คิดว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดจะไหลลงสู่แดนตลาดหมี แต่การปรับฐานอาจเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น” เขากล่าวเสริม

นักลงทุนหวังว่าการเริ่มต้นฤดูกาลรายได้ไตรมาสที่ 4 จะช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาด ธนาคารต่างๆ รวมถึง Citigroup, Goldman Sachs และ JPMorgan Chase จะรายงานผลประกอบการในวันพุธ ขณะที่ Morgan Stanley และ Bank of America จะประกาศผลประกอบการในวันพฤหัสบดี

ข้อมูลในสัปดาห์นี้รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธันวาคม ที่จะเผยแพร่ในเช้าวันพุธ ก่อนหน้านั้น นักลงทุนจะได้วิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อขายส่งจากรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธันวาคม ในวันอังคาร

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์