ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 เม.ย.) ดิ่ง 50.62 จุด ต่ำสุดในรอบ 5 ปี

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 เม.ย.) ดิ่ง 50.62 จุด ต่ำสุดในรอบ 5 ปี

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (8 เม.ย.68) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,074.59 จุด ลดลง 50.62 จุด หรือ 4.50% "นักวิเคราะห์" ชี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลภาษีทรัมป์ พรุ่งนี้คาดแนวรับอยู่ที่ 1,050-1,055 จุด และแนวต้านที่ 1,075-1,080 จุด

"ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ (8 เม.ย.68) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,074.59 จุด ลดลง 50.62 จุด หรือ 4.50% โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,083.75 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,056.41 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 66,592.44 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 เม.ย.) ดิ่ง 50.62 จุด ต่ำสุดในรอบ 5 ปี

ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (8 เม.ย.68)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. KBANK ราคาปิด 146.00 บาท ลดลง 13.50 บาท หรือ 8.46% มูลค่าซื้อขาย 5,313.67 ล้านบาท
  2. GULF ราคาปิด 40.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 11.11% มูลค่าซื้อขาย 4,503.18 ล้านบาท
  3. SCB ราคาปิด 114.00 บาท ลดลง 8.50 บาท หรือ 6.94% มูลค่าซื้อขาย 3,958.73 ล้านบาท
  4. ADVANC ราคาปิด 271.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.37% มูลค่าซื้อขาย 2,901.78 ล้านบาท
  5. KTB ราคาปิด 20.90 บาท ลดลง 1.80 บาท หรือ 7.93% มูลค่าซื้อขาย 2,694.55 ล้านบาท

หุ้นไทยร่วงหนัก กังวล 'ภาษีทรัมป์'

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในวันนี้ โดยดัชนีหลุดระดับ 1,100 จุด ซึ่งถือว่าลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

"ตลาดไทยปรับตัวลดลงเนื่องจากเพิ่งเปิดซื้อขายเป็นวันแรกหลังวันหยุด ในขณะที่ตลาดต่างประเทศรับรู้ผลกระทบจากนโยบายภาษีทรัมป์ไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันจันทร์" นายอภิชาติ กล่าว พร้อมระบุว่ามาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาเมื่อวานนี้เป็นเพียงการช่วยเหลือรายตัว แต่ไม่ได้ช่วยภาพรวมของตลาด

นายอภิชาติ มองว่า สถานการณ์ตลาดในเชิงเทคนิคน่ากังวล เนื่องจากดัชนีทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งระดับล่าสุดนี้ไม่เคยเห็นมานานถึง 5 ปี โดยแนวรับจริงอาจอยู่ต่ำกว่า 1,000 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในช่วงวิกฤติโควิด-19

สำหรับแนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.68) นายอภิชาติมองว่า มีโอกาสรีบาวด์ "ผมไม่ค่อยเชื่อว่าจะลงต่อ ยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์อยู่ เพราะสังเกตเห็นว่าตลาดหุ้นยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์เริ่มปรับตัวขึ้นแล้ว" โดยให้แนวรับอยู่ที่ 1,050-1,055 จุด และแนวต้านที่ 1,075-1,080 จุด

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยที่อาจพลิกสถานการณ์ได้มีเพียงการเปิดเจรจาจากทรัมป์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่คาดการณ์ไม่ได้

แนะสะสมหุ้น Domestic ปันผลดี

สำหรับคำแนะนำการลงทุน นายอภิชาติ เน้นย้ำให้เลือกลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง โดยแนะนำให้เลือกหุ้นในประเทศ (Domestic) เช่น กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มสื่อสารที่มีปันผลดี ซึ่งน่าจะรองรับความเสี่ยงในช่วงนี้ได้

หุ้นที่แนะนำเป็นรายตัว ได้แก่ กลุ่มไฟฟ้า แนะนำ ADVANC กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ PR9 และ BDMS ส่วนหุ้นปันผลดีแนะนำ NKT ซึ่งเป็นหุ้นน้องใหม่ที่น่าสนใจ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์