10 ข้อควรรู้ เตรียมพร้อมร่างกาย สำหรับ "สตรี" ทำเด็กหลอดแก้ว
ขั้นตอนสำคัญสำหรับสตรีมีบุตรยากที่เข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว นอกจาก การบำรุง การกระตุ้นไข่ เก็บไข่ และลุ้นผลการปฏิสนธิในห้องแล็บ แล้ว คือการเตรียมความพร้อมก่อนย้ายตัวอ่อนสู่โพรงมดลูกเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์
"ครูก้อย" นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์ และผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก เบบี้แอนด์มัม ให้ข้อมูลสำคัญกับว่าที่คุณแม่ที่มีบุตรตามธรรมชาติได้ยาก และต้องเข้ากระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ว่า ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ผู้หญิงที่มีบุตรยาก ควรให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมก่อนย้ายตัวอ่อน โดยภายหลังที่ได้ตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์และคัดโครโมโซมผ่านแล้ว สามารถแช่แข็งตัวอ่อนไว้ได้ ไม่ต้องรีบใส่ตัวอ่อน ควรพักอย่างน้อย 1-3 รอบเดือน เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกาย ดูแลสุขภาพ บำรุงและบำบัดมดลูกให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
ครูก้อย บอกด้วยว่าสำหรับ การเตรียมความพร้อมก่อนย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก มีขั้นตอนดังนี้
1.ทานโปรตีนให้เพียงพอช่วยสร้างผนังมดลูกให้หนาตามเกณฑ์และแข็งแรง
"ปัจจัยสำคัญในการฝังตัวของตัวอ่อนได้อย่างสมบูรณ์ผนังมดลูกที่เหมาะกับการฝังตัวของตัวอ่อนควรมีความหนา 8-10 มิลลิเมตร แต่ไม่ควรหนาเกิน 14 มิลลิเมตร สำหรับโปรตีนที่แนะนำ คือ โปรตีนจากพืช เพราะปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดง หรือ ฮอร์โมน ทานคาร์บเชิงซ้อนจากธัญพืช เช่น งาดำ ลูกเดือย แฟล็กซีด เมล็ดฟักทอง เป็นต้น"
2. ปรับสมดุลฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนด้วยการทานอาหารที่มีวิตามินซี และไบโอฟลาโวนอยด์สูง
"มีการวิจัยพบว่าน้ำมะกรูดคั้นสด มีวิตามิน C และไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยให้เลือดสูบฉีด ไหลเวียน ให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้น ลดการอักเสบติดเชื้อที่มดลูก พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน"
3.รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและคงที่
"เพราะน้ำหนักมากหรือน้อยไป จะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Panminerva Medica เมื่อปี 2019 ศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีภาวะอ้วน โดยมีค่า BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 25 มีส่วนทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนผิดปกติ ส่งผลให้มีฮอร์โมนไม่สมดุล ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่ปกติ เซลล์ไข่ด้อยคุณภาพ ทั้งนี้นายแพทย์ Robert จาก Colorado Center for Reproductive Medicine เผยว่า ผู้หญิงที่สุขภาพดีนั้นและมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่า หากมีค่า body fat ไม่ต่ำกว่า 17-19% หรือควรมี body fat อย่างน้อย 22%"
4.ดื่มชาดอกคำฝอย ตัวช่วยล้างประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง
"ดอกคำฝอยมีสรรพคุณทางยาที่สำคัญคือการขับลิ่มเลือด การดื่มชาดอกคำฝอยจึงช่วยขับประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง นอกจากนี้ดอกคำฝอยช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนสตรีทำให้เลือดไหลเวียนดี ประจำเดือนมาปกติ"
5. ดื่มขิงดำ เพิ่มสภาวะมดลูกอุ่น เลือดไหลเวียนดี
"ขิงดำช่วยให้ผ่อนคลาย ลดฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวร้ายที่มีผลต่อการจัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนขิงดำยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบและติดเชื้อในมดลูก ทำให้มดลูกแข็งแรง"
6.แพคน้ำมันละหุ่งบำบัดมดลูก ช่วยดีท็อกซ์มดลูก
"การทำ Castor Oil Pack จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์เพราะช่วยเสริมสร้างสุขภาพมดลูก สร้างสุขภาพที่ดีให้รังไข่ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น รวมถึงระบบเหลืองและระบบฮอร์โมนที่ดีขึ้น ช่วยดีท๊อกซ์สารเคมีตกค้างในร่างกายจากการใช้ฮอร์โมนมากเกินไป"
7.ทานวิตามินบำรุงเตรียมตั้งครรภ์
"ครูก้อยแนะนำ วิตามิน OvaAll มีครบ ทั้ง โฟลิก Fish oil Q10 วิตามินและแร่ธาตุรวม ซึ่งเหมาะ สำหรับสตรีเตรียมตั้งครรภ์ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับวิตามินเตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิงท้องยากได้ที่เพจหรือเว็บไซต์เบบี้แอนด์มัม"
8.เตรียมพร้อมทางด้านอารมณ์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
9.เตรียมพร้อมเยื่อบุโพรงมดลูกด้วยกระบวนการแพทย์
"หลังเตรียมพร้อมร่างกายแล้ว หากผนังมดลูกยังไม่หนาพอ แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนเอสโตรเจนจากภายนอกกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ในระดับที่เหมาะแก่การย้ายตัวอ่อน"
และ 10.เตรียมตัว ณ วันย้ายตัวอ่อน
"ก่อนย้ายตัวอ่อนแพทย์จะให้ดื่มน้ำและกลั้นปัสสาวะประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาย้ายตัวอ่อน และอัลตร้าซาวด์บริเวณหน้าท้องเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการฝังตัวอ่อนและย้ายตัวอ่อนวางในตำแหน่งที่แพทย์กำหนด ไว้ หลังใส่ตัวอ่อนแพทย์จะให้นอนพักประมาน 60 นาที พอครบเวลาแล้วให้ค่อยๆลุก แนะนำให้นอนตะแคงและใช้ศอกค้ำยันให้ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ห้ามเกร็งหน้าท้อง เดินอย่างระมัดระวัง และรับยาพยุง การตั้งครรภ์ก่อนกลับมาพักผ่อนที่บ้าน หลังจากนั้นแพทย์จะนัดเจาะเลือดตรวจการตั้งครรภ์ ในวันที่ 10 หลังการย้าย ตัวอ่อน"
"การเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมไม่ควรรอพึ่งกระบวนทางการแพทย์อย่างเดียวเพราะโอกาสความ สำเร็จขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตั้งต้นของแต่ละคน ดังนั้นการเตรียมความพร้อม ทั้งทางร่างกาย และระบบเจริญพันธุ์ ให้สมบูรณ์ ก่อนเข้าสู่กระบวนแพทย์เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด เพราะเมื่อมีวัตถุดิบตั้งต้นดี โอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ก็จะมีสูง ตามมา” ครูก้อย นัชชา กล่าวสรุป.