คุณภาพ & ความจริงใจ หนุน ‘อะโทมี่’ ไปทั่วโลก
เปิดกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จ "อะโทมี่" บริษัทขายตรงสัญชาติเกาหลีใต้ เน้นสินค้ามีคุณภาพที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด พร้อมมอบความจริงใจให้กับทั้งพนักงาน และสมาชิก หนุนธุรกิจเติบโตก้าวกระโดดทั้งใน และต่างประเทศ ล่าสุดรายได้ปี 66 แตะ 6 หมื่นล้านบาท
ในโอกาสที่ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้ไปเยือนสำนักงานใหญ่อะโทมี่ที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนพ.ค. ทำให้ได้รับรู้ว่าการมีสินค้าที่มีคุณภาพที่มาพร้อมกับความจริงใจ และเป็นสินค้าที่สำคัญในชีวิตประจำวันจะยิ่งหนุนบริษัทเติบโต โดยเฉพาะความจริงใจที่มีต่อพนักงาน หวังให้มีความสุข และดูแลสุขภาพตนเองให้ดี จะสะท้อนไปยังผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพของบริษัทคือ กลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จที่หนุนให้ “อะโทมี่” เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
“ปาร์ค ฮันกิล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อะโทมี่ บริษัทขายตรงสัญชาติเกาหลีใต้ เผยเบื้องหลังความสำเร็จมาจากกลยุทธ์ Masstige (Mass + Prestige) คือ การคัดสรร “ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด” และผลิตสินค้าที่จำเป็นสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ จึงเกิดการบอกต่อไปเรื่อยๆ และด้วยความจริงใจ บวกกับสินค้าที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน จะยิ่งหนุนบริษัทเติบโตได้
สำหรับความจริงใจของ “อะโทมี่” ที่มีต่อพนักงานแสดงผ่านการออกแบบสำนักงานใหญ่ หรือที่เรียกว่า อะโทมี่พาร์ค (Atomy Park) นั้น เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่หวังให้พนักงานมีความสุข และรู้สึกผ่อนคลายในการทำงาน โดยมีพื้นที่สันทนาการให้พนักงานพักผ่อนหลายส่วน อาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสนามกีฬา ขณะที่ห้องประชุมมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ พนักงานสามารถเลือกนั่งทำงานตามพื้นที่ ที่ชื่นชอบได้อย่างอิสระ และทุกคนยังได้ใช้เก้าอี้เพื่อสุขภาพในราคาหลักพันดอลลาร์ อีกทั้งบริษัทยังมีโรงอาหารบริการอาหาร 3 มื้อให้แก่พนักงาน
“ผมอยากสร้างอาคารที่ช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมกันระหว่างพนักงาน คือ 1. ต้องมีพื้นที่แบ่งปันไอเดีย 2. มีพื้นที่ทำงาน 3. มีพื้นที่ออกกำลังกาย และสันทนาการต่างๆ ให้พนักงานได้พักผ่อน และดูแลสุขภาพตนเองให้ดี ซึ่งจะสะท้อนไปยังผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทที่มีคุณภาพ” ปาร์ค ฮันกิล กล่าว
งาน Success Academy ที่นำนักธุรกิจอะโทมี่ที่ประสบความสำเร็จมาแบ่งปันข้อมูล และให้คำแนะนำแก่นักธุรกิจที่สนใจ รวมถึงให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และการอบรมทำธุรกิจผ่าน Atomy Success System เป็นอีกปัจจัยที่นำมาซึ่งความสำเร็จในการทำธุรกิจ ซึ่งล่าสุด Success Academy ในเกาหลีใต้ มีสมาชิก และนักธุรกิจอะโทมี่เข้าร่วมกว่า 7,000 คน เมื่อเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ อะโทมี่ยังมีกลยุทธ์ Global Sourcing Global Sales (GSGS) หรือกลยุทธ์นำวัตถุดิบที่มีคุณภาพในต่างประเทศมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงตลาดในประเทศนั้นๆ มากขึ้น เช่น ประเทศไทยนำ “มะพร้าว” ผลไม้ขึ้นชื่อมาผลิต “อะโทมี่ คาเฟ่ อาราบิก้า โคโคนัท” หรือ กาแฟอาราบิก้าสำเร็จรูปผสมครีมเทียมมะพร้าว ขณะที่ในจีนนำแอปเปิลมาทำเป็นขนมอบกรอบสำหรับรับประทานเล่น, ในเม็กซิโกนำอะโวคาโดมาสกัดเป็นน้ำมันอะโวคาโดที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว และมีโอเมก้า 3, 6, 9
ขณะที่อุปสรรคในการทำธุรกิจ อาทิ เงินเฟ้อ และตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง อะโทมี่มองว่าเป็น “โอกาส” ที่ผลักดันให้บริษัทลุยธุรกิจผ่านชอปปิงมอลล์ออนไลน์ ทั้งเวบไซต์ และแอปพลิเคชัน และจัดทำแพลตฟอร์มให้ข้อมูลสินค้า และแนวทางการทำธุรกิจแก่สมาชิก และนักธุรกิจอะโทมี่ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพสินค้าดีในราคาถูก จะเข้าถึงผู้บริโภคได้แม้เศรษฐกิจประสบภาวะเงินเฟ้อ
ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจอะโทมี่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเสมอ โดยยึดหลักการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ลดการใช้พลาสติก พร้อมตั้งเป้าบรรลุพลาสติกเป็นศูนย์ และยังได้แบ่งปันผลกำไรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีทั้งบริจาคสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในด้านต่างๆ, จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนในไทย, ก่อตั้งโรงพยาบาลในกัมพูชา รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่สำหรับเด็กเล็กในต่างประเทศ
“เราไม่ได้มุ่งทำกำไรอย่างเดียว แต่ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทด้วย” ปาร์ค ฮันกิล ย้ำ
เป้าหมายปีนี้เน้นผลิตภัณฑ์ เทรนด์ Health & Wellness
อะโทมี่ ก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดยร่วมธุรกิจกับ Kolmar ซึ่งเป็นทั้งโรงงาน และบริษัทวิจัยที่รับผลิตและวิจัยสินค้าด้านสุขภาพ และความงามให้กับผลิตภัณฑ์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ ทั้งแบรนด์ในเกาหลีใต้ และแบรนด์ต่างประเทศ จากนั้นขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รัสเซีย ฯลฯ และเข้ามาตั้งสาขาในประเทศไทย เมื่อปี 2560
ปัจจุบันอะโทมี่เข้าถึงตลาดทั่วโลกแล้ว 56 ประเทศ และเริ่มรุกตลาดยุโรปเมื่อปีก่อน ล่าสุดปี 2566 มียอดขายทั่วโลกกว่า 2.2 ล้านล้านวอน (ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท) มีสมาชิกกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก และมีสาขาในต่างประเทศที่ทำยอดขายสูงกว่า 1 แสนล้านวอน (ประมาณ 2.7 พันล้านบาท) มากถึง 4 สาขาด้วยกัน ได้แก่ จีน ไต้หวัน สหรัฐ และรัสเซีย
สำหรับตลาดในไทย อะโทมี่ มียอดขายในปี 2566 กว่า 350 ล้านบาท มีสมาชิกในไทยมากกว่าแสนคน และตั้งแต่ปี 2561- 2566 เติบโตกว่า 80% ภูมิภาคที่มียอดขายสูงสุดได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ตามลำดับ
เป้าหมายในปีนี้มุ่งเน้นไปที่การเปิดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ Health & Wellness ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตลาดโลก รวมถึงประเทศไทย โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าระดับโลก คิดค้น และพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายสินค้าที่มีคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้สู่ผู้บริโภคทั่วโลก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์