โควิด-19 เสี่ยงระบาดจากพัสดุ ต่างประเทศ
"หมอประสิทธิ์" เผย ประเทศไทยมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยไม่รู้แหล่งที่มาของเชื้อ ซึ่งอาจจะเป็นการรับพัสดุจากต่างประเทศ และต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย อย่างที่หลายประเทศกำลังเผชิญอยู่
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 63 ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล วิเคราะห์สถานกการณ์โควิด-19 ว่า หลังจากที่ องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่าประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกกำลังจะเผชิญการระบาดของโรค โควิด-19 ว่า ตอนนี้สถานการณ์ที่ทวีปอเมริกาหนักสุด ในระยะ 3-5 วันมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ล้านคน และจะเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามีการติดเชื้อในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี ถึง 135% เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 1 พันคน ที่บราซิลมีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ส่วนเอเชียพบว่าประเทศอินเดียอยู่ในช่วงขาขึ้น มีผู้ป่วยรายใหม่วันละกว่า 7 หมื่นคน ขณะที่เกาหลีใต้ก็เริ่มการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการให้ทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลาทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ทั้งพื้นที่โล่งและภายในห้อง ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม
โดยสถานการณ์ การติดเชื้อระลอกใหม่ จะเห็นว่า ในหลายประเทศมีความรุนแรงกว่ารอบแรก หลายประเทศไม่รู้แหล่งที่มา แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะควบคุมการระบาดได้ดี และยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศ แต่อย่าคิดว่าปลอดภัยเพราะประเทศเพื่อนบ้านยังมีการติดเชื้ออยู่ การเดินทางข้ามพรมแดน รวมถึงการนำพัสดุต่างๆ เข้ามายังประเทศอาจจะนำการติดเชื้อเข้ามาได้
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ระบุถึงประเทศไทยมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดอีก แต่ต้องควบคุมให้ได้เพื่อให้เศรษฐกิจก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เพราะเราไม่อยากให้เหมือนการระบาดรอบแรกที่ต้องปิดล็อคทั้งประเทศ ซึ่งการควบคุมโรคต้องยึดหลักการควบคุมมุ่งเป้า (Targeted Intervention) ซึ่งในหลายๆ ประเทศก็นำมาใช้ เพราะก่อให้เกิดผลกระทบ เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่มาก ประชาชนก็เลยไม่เครียดมาก แต่วิธีนี้ต้องทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือฝ่ายปกครอง ที่ออกนโยบายต่างๆ ฝ่ายผู้ประกอบการนำเอามาตรการไปใช้ และประชาชนต้องร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ระบุเพิ่มเติมถึง สภาพอากาศในประเทศไทยมีปัจจัยส่งเสริมอาจจะมีโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะแยกไม่ได้จากโควิด-19 บางคนที่มีอาการทำให้เกิดความชะล่าใจจนทำให้ไม่ไปพบแพทย์. ไม่เหมือนเมื่อช่วงต้นปี ใครมีอาการเหล่านี้จะต้องรีบไปพบแพทย์ โอกาสหลุดจะน้อย แต่ตอนนี้ต้องระวังเพราะประชาชนบางกลุ่มที่มีอาการคิดว่าเป็นแค่ ไข้หวัด เลยไม่ได้ไปพบแพทย์ แต่พออาการหนักจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ ซึ่งเชื้ออาจจะแพร่ไปหลายวันแล้ว