เข้าใจตัวตนพนักงาน พัฒนาสู่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

โนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) บริษัทยาจากประเทศเดนมาร์ก การบริหารคน บริหารงานจะมีความเป็นสแกนดิเนเวีย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความเป็นอยู่ที่ดี (well being) ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work life balance) รวมถึงการมีส่วนร่วม (inclusion) และความหลากหลายของผู้คนในองค์กร (Diversity) ซึ่งเชื่อว่าการที่ธุรกิจจะเติบโตและยั่งยืนได้ ต้องมี Corporate culture (วัฒนธรรมองค์กร) ที่ดีเพื่อดึงดูดให้คนอยู่กับองค์กรไปนานๆ เท่าที่จะนานได้ ไม่ใช่อยู่เพียง 2-3 ปี ก็ออกจากองค์กร

“หัวใจ” สำคัญที่จะทำให้ โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา ประเทศไทย เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ “พนักงานขององค์กร” ทั้ง 300 คน โดยในองค์กรจะมีพนักงานหลาก Gen หลายวัย และหลากหลายเพศ ส่วนใหญ่จะเป็นอยู่ใน Gen Y อายุ 30 กว่าปีขึ้นไป

หัวใจสำคัญในการบริหารงาน บริหารคน คือ ความหลากหลายทางความคิด และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่ทำให้บริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมเวชภัณฑ์ในการรักษาโรคอ้วนและโรคเบาหวานในประเทศไทยมากว่า 40 ปี โดยปีที่ผ่านมา โนโว นอร์ดิสค์ มีผลประกอบการอยู่ที่ ประมาณ 1,207 พันล้านบาท เติบโตสูงถึง 36% และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 533 พันล้านบาท เติบโต 44% 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อุตสาหกรรมยาเติบโตสูง คนไทยป่วยเบาหวาน 5.2 ล้านคน

‘โนโว นอร์ดิสค์’ จับมือพันธมิตร ซิลลิค ฟาร์มา สนับสนุนค่าส่งยาฟรีผู้ป่วยเบาหวานวชิรพยาบาล”

บริหารความหลากหลาย 

“เอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์” (Enrico Cañal Bruland) รองประธานกรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา ประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ทุกองค์กรจะมีกลุ่มคนที่หลากหลาย ซึ่งโนโว นอร์ดิสค์ มีทั้งพนักงานรุ่นใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำงาน 2-3 ปี และพนักงานที่ทำงานมามากกว่า 30 ปี

"บริษัทฯ ตระหนักถึงความหลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะความคิดของกลุ่มคนที่หลากหลาย มักจะก่อให้เกิดนวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่ปรับเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของพนักงานในแต่ละกลุ่ม เพราะ Diversity เป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ และพยายามปรับให้ทุกคนได้รับการบริการ สิทธิประโยชน์จากองค์กรที่ตรงกับความต้องการของแต่ละเจนเนอเรชัน เนื่องจากที่นี่เปิดรับทุกเพศ ทุกวัย และเปิดกว้างให้แก่ทุกเพศทุกวัยเข้าสู่ตำแหน่งระดับผู้บริหาร” เอ็นริโก้ กล่าว

Novo Nordisk way

“โนโว นอร์ดิสค์” มีสัดส่วนของพนักงานและผู้บริหารที่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยมีเพศหญิง 60% และผู้ชาย 40% ซึ่งถ้าเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สูง เพราะเราเปิดโอกาสแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม

“เอ็นริโก้” เล่าต่อว่าการพัฒนาคน และพัฒนาองค์กรนั้น โนโว นอร์ดิสค์ จะมีวิถีการดำเนินงานที่เรียกว่า Novo Nordisk Way เหมือน Corporate Culture ซึ่ง Novo Nordisk Way ไม่ได้เพียงไกด์แค่เรื่องการเป็นพนักงานที่ดีเท่านั้น แต่จะไกด์ด้วยว่าเราจะเป็นคนที่ดีได้อย่างไร โดยจะประกอบด้วย 10 ข้อ อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับเรื่องของ well being

ทางโนโว นอร์ดิสค์ จะมีการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานภายในองค์กรทั้งเรื่อง Engagement (การมีส่วนร่วมของพนักงาน), Turnover Rate (อัตราการลาออก) ของพนักงาน และความพึงพอใจของพนักงาน รวมถึงการฟังเสียงของพนักงาน เพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หรือทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นต่อไปอย่างยั่งยืน 

นโยบายในการทำงานของ “โนโว นอร์ดิสค์” จะแบบไฮบริด คือ ทุกคนสามารถทำงานที่บ้าน หรือทำงานที่ออฟฟิศได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีทำงานร่วมกับทางทีมของตนเองในการจัดแบ่งเวลา ให้มีความยืดหยุ่น 

3 ด้านสร้างความเป็นอยู่ที่ดี 

“เอ็นริโก้” เล่าต่อไปว่าจะมีโปรแกรมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดี 3 ด้าน คือ

1. ด้านจิตใจ เพราะการทำงานหรือจากสภาพแวดล้อมภายนอก อาจทำให้พนักงานมีภาวะเครียดได้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีผู้เชี่ยวชาญภายนอก มาให้คำแนะนำ ดูแลสภาวะด้านจิตใจของพนักงาน รวมทั้งทางร่างกายจะมีอุปกรณ์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ที่เหมาะกับการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้และมีสุขภาพที่ดี 

2. ด้านการเงิน จะมีการดูแลพนักงานทางด้านการเงินไปจนถึงเกษียณ และมีเงินสำรอง ซึ่งได้จ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาอบรม ให้ความรู้ และคำแนะนำในเรื่องของการจัดการแผนการเงิน หรือเรื่องของภาษี การลงทุน เป็นต้น

3. ด้านสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาด้านสุขภาพ มีการดูแลสุขภาพของพนักงานครอบคลุมในทุกโรคและหากพนักงานเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคอ้วนสามารถเบิกยาของบริษัทมาใช้ได้ รวมถึงสิทธิการลา อาทิ คุณแม่ลาคลอดได้ 6 เดือน โดยที่ยังคงได้รับเงินเดือน เช่นเดียวกับคุณพ่อที่สามารถลาเลี้ยงดูบุตรได้ 2 เดือน ซึ่งบริษัทต้องการสนับสนุนสถาบันครอบครัว ในครอบครัวที่รับบุตรบุญธรรม เป็นพ่อเลี้ยง หรือแม่เลี้ยงก็สามารถลาเลี้ยงดูบุตรได้เช่นเดียวกัน 

สร้างสมดุลดำเนินธุรกิจ

นอกจากนั้น การดำเนินธุรกิจจะใช้หลัก Triple Bottom Line โดยคำนึงถึงปัจจัย 3 ประการอย่างสมดุล ได้แก่ ปัจจัยด้านการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ ‘ผู้ป่วย’ เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งการสร้างสมดุลระหว่างการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการรักษาสมดุลนี้จะทำให้โนโว นอร์ดิสค์ สามารถคงความยั่งยืน สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน 

“ทุกวันที่ผมมาทำงาน ผมจะตื่นเต้น และรู้สึกสนุกที่จะได้มาสื่อสาร พูดคุยกับทุกคนมากกว่าวันที่ต้องมาประชุม ผมจึงพยายามทำให้พนักงานทุกคนมีความตื่นเต้น และตื่นตัวในการทำงานเหมือนกับผม โดยเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบาย มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ช่วยในการทำงาน มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทำให้ทุกคนอยากมาทำงาน มีความเป็นอยู่ที่ดีหรือ Work life balance ที่ดี ซึ่งจะทำให้พนักงานมีความสุขที่จะมาทำงานกับองค์กร และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแก่พนักงานได้”

ผู้นำไม่จำเป็นต้องมีผู้ตาม 

“โนโว นอร์ดิสค์” มีความต้องการให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และหวงแหนองค์กร ในทุกปี จะมีการสำรวจความต้องการของพนักงาน และพนักงานทุกระดับสามารถ feedback ไปยังผู้บริหารได้ ว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไรกับผู้บริหาร ซึ่งทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องตอบสนองกับ feedback ดังกล่าว นอกจากนั้น พนักงานทุกคน สามารถเดินไปยังห้องผู้บริหารและบอกถึงมุมมองความคิดเห็นของตนเองได้ 

“เอ็นริโก้” กล่าวต่อว่าผู้บริหารต้องรับฟังพนักงาน และเปิดกว้างให้ทุกคนได้แสดงมุมมองความคิดเห็นของตัวเอง ขณะเดียวกันผู้บริหาร ต้องรู้จักตั้งคำถามที่จะเป็นการช่วยพนักงานรู้สึกไว้วางใจ และปลอดภัยเมื่ออยู่ในองค์กร ซึ่งจากการทำงานของตนเองในแต่ละประเทศนั้น ไม่ได้มองว่าพนักงานเป็นคนประเทศไทย แต่เขาจะมองเรื่องของความเชื่อใจ ไว้วางใจ และให้การสนับสนุนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ และเข้าใจว่าทุกคนแตกต่างกัน เขาพร้อมที่จะดูแลทุกคนในแบบที่คนๆ นั้นเป็น และจะไม่พยายามไปเปลี่ยนความเป็นตัวตนของพวกเขา

“ผู้นำไม่จำเป็นต้องมีผู้ตาม ทุกคนสามารถเป็นผู้นำได้ ความคิดเห็นของทุกคนจึงสำคัญอย่างมาก และความแตกต่างของคนเป็นสิ่งที่ดี หน้าที่ของผู้บริหารต้องสนับสนุนพนักงานให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ผู้บริหารต้องผู้นำและผู้สนับสนุน ที่ต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์ใคร ต้องรู้จักชี้แนวทางให้แก่พนักงาน และต้องลดความขัดแย้งในองค์กร ดังนั้น โนโว นอร์ดิสค์จะมองหาคนที่มีทั้ง hard skills และ soft skills ซึ่งจะเปิดกว้างเรื่องความหลากหลาย ใครที่มีทักษะ ทัศนคติตรงกับที่เราตั้งเป้าไว้ และสอดคล้องกับ Novo Nordisk Way ก็สามารถมาทำงานร่วมกับเราได้” เอ็นริโก้ กล่าว