นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

คนในแต่ละช่วงวัย แต่ละเจนเนอเรชั่น (Generations) ต่างมีพฤติกรรม ทัศนคติ และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงนิสัยการใช้เงินร่วมด้วย

KEY

POINTS

  • Baby Boomer  ควรเก็บฝากไว้กับธนาคาร ไม่ควรลงทุนเพิ่มในหน่วยการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่ GenX มีความพร้อมในการลงทุนมากที่สุดแล้ว เพราะมีรายได้มาก
  • GenY ช่วงวัยสร้างเนื้อสร้างตัว  ต้องแบ่งเก็บ แบ่งลงทุน และGenZ เกิดมาในยุคที่มีพร้อม จึงมักมีลักษณะนิสัยที่รักสบาย และไม่ยึดติดกับสิ่งใด พร้อมลงทุนในความเสี่ยง ใช้ชีวิตให้คุ้ม
  • การลงทุนที่น่าจะทำกำไรได้มากที่สุดคือช่วง Gen Z เพราะลงทุนในความเสี่ยงสูง การลงทุนและการวางแผนการเงินตาม Gen ต่าง ๆ ทำให้เราตั้งเป้าหมายในการใช้เงินได้

คนในแต่ละช่วงวัย แต่ละเจนเนอเรชั่น (Generations) ต่างมีพฤติกรรม ทัศนคติ และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงนิสัยการใช้เงินร่วมด้วย

ผลสำรวจหลายๆ แห่ง จึงมุ่งศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค และความคิดที่แตกต่างกันของคนละเจน อันนำไปสู่การวางแผนทางธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดขององค์กร

วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” จะนำเรื่องเงิน เงิน นิสัยทางการเงินของคนทั้ง 4 4 generations  ทั้งวิธีจัดสรร การใช้เงินที่แตกต่างตามประสบการณ์ ช่วงวัย เป้าหมายการวางแผนทางการเงิน  และการเตรียมพร้อมการลงทุน การออมของแต่ละช่วงวัยว่าควรเป็นอย่างไร ?

คนที่เกิดใน Gen B หรือเราคุ้นชื่อว่า Baby Boomer  อยู่ในช่วง พ.ศ. 2489 - 2507 เป็นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บ้านเมืองสงบหลังจากสงครามแล้ว  ปัจจุบันคนในยุคนี้มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป

คน Gen X คือกลุ่มคนในวัย 33 - 47 ปี เกิดในช่วง พ.ศ. 2508 - 2522 ชีวิตไม่ยากลำบาก โลกสงบเรียบร้อยแล้ว มีความมั่นคงในชีวิตสูง การใช้ชีวิตมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ วิดีโอเกม โทรศัพท์มือถือ สไตล์เพลงเป็นแบบฮิปฮอป

คน Gen Y คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 - 2543 อายุอยู่ที่ประมาณ 18 - 32 ปี เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล มีความเป็นสากล เปิดรับวัฒนธรรมแบบ Teen Pop มีความคิดว่าการชื่นชอบศิลปินต่างชาติเป็นเรื่องปกติธรรมดา มีเทคโนโลยี เกิดมาในยุคที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต และเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก

Gen Z คือ Gen ใหม่ล่าสุดในยุคปัจจุบัน เป็น Gen ที่เกิดหลังพ.ศ. 2540 เป็นต้นไป มีอายุต่ำกว่า 19 ปี เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแวดล้อม สามารถใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ดี เรียนรู้เร็ว เป็น Gen ที่มีจำนวนมากสุดในประเทศไทยขณะนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เข้าใจความต่าง! ทำไม? คน Gen Z ถึงอยู่ร่วมกับคน Gen อื่นยาก

'Gen Y' รับบทเดอะแบก! เป็นเสาหลักที่บ้าน มาทำงานก็แบกทั้งลูกน้อง-เจ้านาย

นิสัยการเงิน การออมของคนBaby Boomer

ด้วยลักษณะนิสัย : คน Gen B นี้ มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ มีความอดทนสูง ทุ่มเทให้กับการทำงานและองค์กรมาก พยายามคิดและทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นเจ้านายคน ได้รับการสั่งสอนมาให้รู้จักประหยัด อดออม จึงใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง เป็นคนจริงจัง เคร่งครัดเรื่องขนบธรรมเนียนประเพณี มีความเป็นผู้นำสูง

มุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้ : ค่อนข้าง play safe ไม่มุ่งหาความเสี่ยงที่มากเกินจะรับไหว เป็นช่วงที่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุ และจะคิดถึงทายาทรุ่นหลังในการสืบทอดมรดกของตัวเอง ดังนั้นการเก็บออมถือเป็นสิ่งที่คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญ เช่น การวางแผนภาษี หรือ การเก็บเงินในกองทุนที่มีความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงต่ำ แต่มูลค่าเงินต้นต้องยังคงสภาพอยู่

นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

เลือกออมแบบไหน : Baby Boomer อยู่ในช่วงวัยที่แทบจะเรียกได้ว่าใกล้จะหมดภาระแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนรถหมดแล้ว ผ่อนบ้านใกล้หมด และใกล้เกษียณอายุจากการทำงาน จึงมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนทุกรูปแบบ เพราะต้องการวางแผนการเงินให้พอสำหรับการใช้ชีวิตในบั้นปลายของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้แบ่งเงินมาลงทุนเลย แต่เปอร์เซ็นต์น้อยเหลือเพียง 10% และอีก 90% ของเงินเก็บ ก็ควรจะเก็บฝากไว้กับธนาคาร ไม่ควรลงทุนเพิ่มในหน่วยการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ยกเว้นกรณีลงทุนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการทำงาน

Gen Xกล้าเสี่ยง ลงทุนในกองทุน

ลักษณะนิสัย : คน Gen X ในวัยทำงานอายุ 30 ขึ้นไป เป็นคนชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ชอบอะไรที่เป็นทางการ มีความ Work life balance สูง ทำงานแบบ Independence ได้ดี มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เปิดกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็มีความขัดแย้งในตัวเองสูงเช่นกัน เช่น ต่อต้านสังคม ไม่ยึดกับขนบธรรมเนียม

มุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้จะกล้าแบกรับความเสี่ยงได้พอสมควร ทำให้การวางแผนทางการเงินของคนกลุ่มนี้ควรต้องจัดสรรเงินออมให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตโดยต้องบังคับตัวเองว่าห้ามนำเงินส่วนการออมมาจับจ่ายใช้สอย เพื่อชีวิตหลังเกษียณ มองความสะดวกสบายเป็นโจทย์ในการใช้ชีวิต จึงยอมแลกกับเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อซื้อความสบายให้ตัวเองและครอบครัว

เลือกออมแบบไหน : คนใน Gen X นี้เป็น Gen ที่มีความพร้อมในการลงทุนมากที่สุดแล้ว เพราะมีรายได้มาก มีความรู้ ฐานะมั่นคง แม้จะมีภาระมากมายก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ควรลงทุนแบบโลดโผน หากจะลงทุนในหุ้นก็ควรเป็นการลงทุนในระยะยาว เพื่อรอรับผลประโยชน์หลังจากเกษียณ แบ่ง 30% ของเงินเก็บไปลงทุน และอีก 70% ออมกับธนาคารหรือลงทุนในตราสารหนี้ต่าง ๆ คน

Gen X นิยมลงทุนในกองทุนรวมประเภท LTF หรือ RMF เพราะลงทุนหุ้นในระยะยาว และยังนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้ด้วย เพราะเมื่อมีรายได้มากก็จะต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย อีกหนึ่งการลงทุนที่เหมาะกับ Gen นี้ คือ การซื้อประกัน ทั้งประกันสุขภาพและประกันที่เป็นการเก็บเงินเอาไว้ใช้ในระยะ 10 - 20 ปีข้างหน้า เมื่ออายุมากขึ้น ในอนาคตอาจจะมีปัญหาสุขภาพตามมา

นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

แบ่งออม แบ่งลงทุนสินทรัพย์ 

ลักษณะนิสัย : ชอบทำงานเป็นทีม คน Gen Y เกิดมาพร้อมกับค่านิยมการประชุม ระดมความคิด เป็นคนไม่ชอบถูกเอาเปรียบและต้องการทำงานเพื่อให้ได้เงินเดือนสูง ๆ ชีวิตส่วนตัวชอบสังสรรค์และมีชีวิตหลังเลิกงาน เช่น ไปเล่นฟิตเนส แฮงก์เอ้าท์กับเพื่อน เป็นกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดี มีใจเอื้อเฟื้อต่อสังคม มีใจรักต่อสิ่งแวดล้อม ถนัดงานที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ชอบงานด้านไอที ใช้ความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว อย่างที่เราเห็นภาพคนยุคใหม่ที่นั่งเล่นสมาร์ทโฟน ไอแพด คุยโทรศัพท์ ไปพร้อม ๆ กับทานข้าวได้

มุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้จึงกล้าได้กล้าเสีย และพร้อมแบกรับความเสี่ยงที่สูงหากต้องลงทุนในสินทรัพย์ หุ้น หรือ กองทุนรวมต่างๆ เพราะมีเป้าหมายต่อผลตอบแทนที่ต้องสูงและต้องงอกเงย ที่สำคัญเป็นช่วงอายุที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน และพิสูจน์ความสามารถ รายได้สามารถรับได้มากกว่าหนึ่งทางเพราะชอบความท้าทาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ถนัดกับการเก็บออม ชอบใช้จ่ายไปเพื่อสนองความสุข ความต้องการของตัวเองซะมากกว่า

เลือกออมแบบไหน : คนใน Gen Y จะมีสัดส่วนในการลงทุนที่แตกต่างไป เพราะเข้าสู่ช่วงการทำงาน เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว บางคนอาจมีครอบครัว มีบ้าน คอนโด รถ เริ่มมีภาระและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น Gen Y จึงเริ่มมองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย

ดังนั้นจึงควรจะแบ่งเงินลงทุน 50% จากเงินเก็บ โดยเลือกลงทุนในกองทุน หรือตราสารเงินที่คุ้มครองเงินต้น ส่วนเงินเก็บอีก 50% ที่เหลือก็ควรออมที่ได้ดอกเบี้ยสูง เช่น ฝากประจำปลอดภาษี  หรือโครงการพิเศษต่าง ๆ และควรเริ่มมองการลงทุนหุ้นในระยะยาวด้วย

นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

รักสบาย ไม่ยึดติด ใช้ชีวิตให้คุ้ม

กลุ่ม Gen Z เติบโตมาในโลกที่ความผันผวนทางการเงินและเศรษฐกิจของโลกเป็นเรื่องปกติ ทำให้การปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆเป็นเรื่องง่ายและไม่ใช่ปัญหา ซึ่งนับเป็นสิ่งที่หลายๆธุรกิจต้องการหยิบยื่นผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้

ลักษณะนิสัย : เกิดมาในยุคที่มีพร้อม จึงมักมีลักษณะนิสัยที่รักสบาย และไม่ยึดติดกับสิ่งใด ชีวิตขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้ เรื่องการใช้เงิน คือมีอำนาจในการซื้อสูง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ต้องการอะไร และยอมจ่ายเพื่อสิ่งนั้น กล้าซื้อของออนไลน์โดยไม่คำนึงถึง Privacy และนำไปแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย หรือเขียนลงบล็อก หรือในช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ถือว่าเป็นผู้นำเทรนด์

มุมมองด้านการเงินของคนรุ่นนี้ จะพบว่า กลุ่ม Gen Z มองว่าการลงทุนไปกับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ และเมื่อจัดลำดับสิ่งที่คนรุ่นนี้จะนำเงินไปใช้จ่าย ผลปรากฏว่า มุมมองการออมเงินเป็นเรื่องใหญ่ และยังพอมีเวลาให้เก็บออมอีกกว่าครึ่งชีวิต จึงให้ความสำคัญน้อยกว่าการเดินทางท่องเที่ยว แต่ที่น่าสนใจคือ การใช้เงินซื้อของต่างๆ กลับไม่ใช่สิ่งที่คนกลุ่มนี้ถวิลหามากนักเมื่อเทียบกับ Gen Y

เลือกออมแบบไหน : Gen Z เหมาะกับการเริ่มต้นลงทุนมากที่สุด เมื่อเรียนจบออกมาอีก 1 - 2 ปีข้างหน้า เพราะจะเป็นวัยที่จบใหม่ บางคนมีรายได้หรือเงินเก็บรอตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่เลย เมื่อเริ่มต้นทำงาน มีความมั่นใจและยอมรับความเสี่ยงได้สูง แต่ต้องขึ้นอยู่กับรายได้ที่มีด้วย อีกอย่าง Gen นี้ยังไม่ค่อยมีภาระ สามารถใช้เงินเก็บมากถึง 90% มาลงทุน โดยควรแบ่งลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี หรือการลงทุนที่คิดว่าจะได้ผลตอบแทนในระยะยาวที่คุ้มค่า แต่ต้องแบ่งเงินเก็บสัก 10% ไว้ฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ยสูง หรือซื้อหุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในช่องทางที่สร้างความมั่นคง และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเอาไว้ด้วย เพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้ชีวิต

นิสัยการเงินแต่ละ Gen เตรียมพร้อมออมเงินอย่างไร? ไม่หมดตัว

แต่ละ Gen มีวิธีการออมเงินและลงทุนที่ต่างกันออกไป ฉะนั้นคุณอยู่ในวัยไหนก็สามารถเลือกออมและลงทุนได้ตาม Gen ของคุณ

การลงทุนที่น่าจะทำกำไรได้มากที่สุดคือช่วง Gen Z เพราะลงทุนในความเสี่ยงสูง การลงทุนและการวางแผนการเงินตาม Gen ต่าง ๆ ทำให้เราตั้งเป้าหมายในการใช้เงินได้ บางคนอาจเริ่มจากการลงทุนในกองทุนรวม ที่รับความเสี่ยงได้น้อย หรืออาจจะซื้อประกันเงินฝากเอาไว้ตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ ๆ คนที่เริ่มซื้อประกันเอาไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย จะได้เปรียบตรงที่เงินต้นที่ต้องชำระเบี้ยประกันถูกกว่าคนที่ไปทำตอนอายุมาก อย่างไรก็ตาม  “การออมเงิน” ไม่มีคำว่าเร็วเกินไป หรือว่าสายเกินไปนะครับ แค่คุณคิดจะเริ่มออมเงิน ก็ถือว่าคุณมาได้ครึ่งทางแล้ว

อ้างอิง:  krungsri ,advicecenter.kkpfg