“ประกันสังคม”เล็งซื้อประกันสุขภาพบ.เอกชน ให้ผู้ประกันตน

“ประกันสังคม”เล็งซื้อประกันสุขภาพบ.เอกชน ให้ผู้ประกันตน

“พิพัฒน์”ขายสารพัดไอเดีย “ปรับประกันสังคม”สกัดเงินเหลือ 0  ดึงคนเข้ากองทุนฯให้ได้ 40 ล้าน ปลดล็อกต่างด้าวอาชีพยกเว้นจ่ายสมทบได้ -เปิดช่องนำเงินซื้อประกันสุขภาพเอกชนให้ดูแลผู้ประกันตน Fix Cost อัตราจ่ายค่ารักษาพยาบาล -ปรับสัดส่วนลงทุนเป้าเพิ่มดอกผลปี 68 เป็น 5 %  

KEY

POINTS

  • เงินกองทุนประกันสังคมจะมากสุดในปี 2585 อยู่ที่ 6 ล้านล้านบาท แต่จะลดลงเรื่อยๆและจะเหลือ 0 บาทในปี 2597 หากไม่มีมาตรการปรับเปลี่ยน
  • แนวทางปรับกองทุนประกันสังคม “พิพัฒน์ รัชกิจประการ”ขายสารพัดไอเดีย เป้าดึงคนเข้ากองทุนฯให้ได้ 40 ล้าน ปลดล็อกต่างด้าวอาชีพยกเว้นจ่ายสมทบได้   
  • เปิดช่องนำเงินกองทุนประกันสังคมซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชน ให้เข้าดูแลเรื่องรักษาพยาบาลผู้ประกันตน Fix Costอัตราจ่ายค่ารักษาพยาบาล
  • ด้านการลงทุนของกองทุนประกันสังคม ปรับสัดส่วนลงทุนสินทรัพย์ไม่เสี่ยง-เสี่ยงน้อย ตั้งเป้าเพิ่มดอกผลปี 2568 เป็น 5 %  จากปี 66ที่อยู่ 2.7 %

ณ ปี 2567 จำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33,39 ,40ที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม มีอยู่ราว 24.82 ล้านคน เป็นผู้ประกันตนไทย 23.32 ล้านคน ผู้ประกันตนต่างชาติ 1.5 ล้านคน เงินกองทุนประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท แต่ด้วยโครงสร้างประชากรที่เป็นสังคมสูงวัยโดยจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดน้อย ส่งผลให้กำลังแรงงานลดลง การสมทบเงินเข้าสู่กองทุนประกันสังคมจะลดลงด้วย

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า หากไม่มีมาตรการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับกองทุนประกันสังคมจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในปี 2585 จะเป็นปีที่มีเงินกองทุนประกันสังคมมากที่สุดประมาณ 6 ล้านล้านบาท จากนั้นจะลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งปี 2597 เงินนจะกลายเป็น 0 บาท 

เพิ่มคนเข้าประกันสังคมเป็น 40 ล้าน

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2567  ที่ห้องแซฟไฟร์  อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ภายในการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับกองทุนประกันสังคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “เพราะกองทุนเป็นของพวกเราทุกคน(SSO Sustainable for All)ว่า มีเป้ามายจะเพิ่มคนทำงานเข้ามาอยู่ในกองทุนประกันสังคมอีกประมาณ 16 ล้านคนซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานอิสระ แรงงานนอกระบบ เช่น คนขับแท็กซี่ เกษตรกร และรับงานไปทำที่บ้าน จะทำให้จำนวนคนในกองทุนฯเพิ่มจาก 24 ล้านคนเป็น 40 ล้านคน 


“ประกันสังคม”เล็งซื้อประกันสุขภาพบ.เอกชน ให้ผู้ประกันตน

ประกันสังคมซื้อประกันฯเอกชนให้ผู้ประกันตน

แนวทางการสร้างกองทุนประกันสังคมให้ยั่งยืนนั้น  ในกรณีที่รพ.เอกชนร้องเรียนเรื่องอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในที่ช่วงปลายปีจะลดจาก 12,000 บาทต่อหน่วยเหลือ 7,000-8,000บาทนั้น  นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้หารือกับปลัดกระทรวงแรงงานและเลขาธิการสำนักงานปลัดสังคม(สปส.)มีการเสนอแนวคิดที่จะให้ กองทุนฯนำเงินไปซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันเอกชน เป็นแบบเหมาจ่ายให้บริษัทประกันฯแล้วให้บริษัทเป็นผู้รับผิดชอบการดูแลรักษาพยาบาลของผู้ประกันตน  ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.ประกันสังคมเพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้

“การดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ประกันสังคมมีอัตรการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นแบบ Fix Cost ช่วยให้การบริหารง่ายขึ้น เพราะจะสามารถคำนวณต้นทุนได้ว่าแต่ละปีจะต้องจ่ายเท่าไหร่”นายพิพัฒน์กล่าว 

ประกันสังคม ปี 68 เป้าดอกผล 5 %

เรื่องการลงทุนของเงินกองทุนประกันสังคม ในปี 2566 มีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.7-2.8 % แต่ตั้งเป้าในปี 2568 อัตราผลตอบแทนจะต้องขยับเป็น 5 % หากทำได้ก็จะขยายอายุกองทุนประกันสังคมออกไปได้อีกประมาณ 10 ปี   โดยวิธีการ คือ จากที่พ.ร.บ.ประกันสังคม กำหนดการลงทุนในสินทรัพย์ไม่เสี่ยง 60 % และ เสี่ยงน้อยหรือมีโอกาสเสี่ยง 40 %ภายใต้เงื่อนไขต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่เรตติ้งดีเท่านั้น
แต่ปัจจุบันการลงทุนยังเป็นสัดส่วน 70 % ต่อ 30 % ซึ่งคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม)ที่มีคนรุ่นใหม่มีการเสนอให้พิจารณาสินทรัพย์เสี่ยงควรไปลงทุนในต่างประเทศที่ให้ดอกผลดี  เช่น ตราสารทุน เข้าไปซื้อกองทุนต่างๆในต่างประเทศ เป็นต้น

ประกันสังคม ดึงต่างด้าวอาชีพยกเว้นจ่ายสมทบ

 นอกจากนี้ จะมีมาตรการอื่นๆร่วมด้วย เช่น การปรับเพิ่มอายุเกษียณขั้นต่ำจาก 55 ปีเป็น 65 ปี ,ปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบ นายจ้างและผู้ประกันตนฝ่ายละ 2 %  รัฐบาล 2.25 % รวม 3 ฝ่าย 6.25%  และกำลังหารือในการนำอาชีพที่กฎหมายปัจจุบันยกเว้นในกลุ่มคนต่างด้าวให้เข้ามาสู่ระบบประกันสังคมด้วย เช่น ลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ เลี้ยงสัตว์  ลูกจ้างทำงานที่บ้าน และลูกจ้างกิจการหาบเร่ แผงลอย

เนื่องจากแรงงานต่างด้างที่ขึ้นทะเบียนปัจจุบันมีราว 3 ล้านคน ในจำนวนนี้ส่งเงินสมทบมาตรา 33 เพียง 1.5 ล้านคน อีกถึง 1.5 ล้านคนไม่ได้ส่งเงินสมทบประกันสังคม โดยเรื่องนี้สามารถแก้ไขกฎกระทรวง จึงดำเนินการได้เลย คาดว่าน่าจะประกาศในปี 2568

“กระทรวงจะมีการประกาศให้บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในไทยมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และประสานกระทรวงมหาดไทยในการออกบัตรสีชมพูให้กับกลุ่มที่เข้ามาทำงานในอาชีพที่เป็นข้อยกเว้นเดิมในการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม เป็นการนำกลุ่มใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินแล้วให้จ่ายเงินสมทุบเข้าประกันสังคม เมื่อเจ็บป่วยก็จะมีประกันสังคมเข้าไปดูแลค่ารักษาพยาบาล จะทำให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ไม่ต้องแบกภาระค่ารักษาต่างด้าวที่เรียกเก็บไม่ได้อยู่ราว 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี”นายพิพัฒน์กล่าว  

ปฏิเสธสิทธิประกันสังคมแย่กว่าบัตรทอง

 นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ประกันสังคมให้สิทธิคุ้มครองเต็มที่ อย่างเช่น โรคมะเร็งซึ่งเป็น 1 ใน 5 โรคที่เมื่อมีการตรวจวินิจฉัยเจอจะต้องได้รับการรักษาหรือผ่าตัดภายใน  15 วัน สามารถเข้ารพ.เพื่อรอการผ่าตัดได้เลย โดยมีรพ.คู่สัญญาประกันสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั่วประเทศราว 2,000 แห่ง 

รวมถึง  สิทธิในการตรวจสุขภาพ ป้องกันโรคได้ล่วงหน้า หรือเข้ารับการรักษาได้ก่อนการลุกลามที่จะรักษายากขึ้น หรือหากไปรับบริการที่รพ.ตามสิทธิแล้วเห็นว่าได้รับบริการไม่ดี สามารถแจ้งมายังสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เพื่อประสานขอเปลี่ยนรพ.ได้ แต่จะพิจารณาเป็นรายกรณี

“ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33,มาตรา 39 แล้วได้สิทธิรักษาพยาบาลไม่ดีเท่าบัตรทอง 30 บาทนั้นไม่จริง  ประกันสังคมพร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด เพราะสมาชิกทุกคนเป็นเข้าของกองทุนประกันสังคม โดยผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ40เป็นเจ้าของ ดังนั้น ประกันสังคมต้องให้การดูแลเจ้าของอย่างดี”นายพิพัฒน์กล่าว