"หมอชลน่าน"ประกาศ Quick Win ของสธ. -พร้อมนำกระทรวงออกจากก.พ.
"หมอชลน่าน"ประกาศ Quick Win ของสธ.มี 13 เรื่อง จัดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก-
เตรียมตั้งคกก.พัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ดันส่งเสริมการมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ นำสธ.ออกจากก.พ.ภายในปี68 เล็ง1เขต1รพ.แรกที่ดอนเมือง
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2566 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) "หมอชลน่าน" นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติในนโยบายสธ.13 เรื่องว่า ในวันที่ 15 ก.ย.นี้จะมีการชี้แจงนโยบายกับผู้บริหารระดับสูงและ22ก.ย.จะแถลงนโยบานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับ Quick Win ของสธ.ที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและครม.จะมีทั้งหมด 13 เรื่องของทั้ง 13 นโยบาย โดยนโยบายใหญ่ คือ ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น "30 บาท Plus" ส่วน Quick Win ที่จะดำเนินการ อาทิ การดูแลสุขภาพเชื่อมโยงประสานกันทุกมิติ ของผู้มีส่วนรับผิดชอบที่ไม่ต้องมีการแยกส่วน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ขึ้นมารองรับ มีนายกฯเป็นประธาน จะนำเสนอเข้าครม.ในคราวต่อไป คณะกรรมการชุดนี้จะอุดรอยรั่วการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานต่างๆเป็นการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เป็นกรรมการที่คอยบูรณาการ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องที่มีรอยรั่วในช่องว่าง มอบหมายให้นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
รวมถึงการให้วัคซีน hpv ในเด็กอายุ 9-15 ปี ป้องกันมะเร็งปากมดลูก , การค้นหามะเร็งท่อน้ำดีมะเร็งตับ มะเร็งปอดอาจจะเป็น Quick Win ที่เด่น ที่จะแก้ไขปัญหามิติทางสุขภาพของประชาชนในเรื่องของการป้องกัน ในมิติการส่งเสริมสุขภาพ สิ่งที่วัดในมิติทางสุขภาพสังคม ตัวชี้วัดที่เห็นได้ชัด คือ wellness community มีเขตละ 1 แห่ง จะเป็นรูปธรรมที่ตอบได้ทันที
ส่วนในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ นโยบาย 1 เขต 1 รพ. ไม่จำเป็นต้องไปสร้างสถานพยาบาลใหม่ แต่ทำยังไงให้มีเตียงและเข้าถึงการรักษาได้ จากเดิมที่มีการแยกส่วนการทำงาน จึงอาจเลือกในบางพื้นที่ที่สร้างโรงพยาบาล เพื่อให้จับต้องได้เช่น เขตดอนเมืองเป็นพื้นที่หนึ่งที่อยู่ในตัวเลือกที่จะดำเนินการ ที่จะสามารถโชว์เป็น Quick Win ได้
นอกจากนี้ เรื่อง อัตราการเกิดน้อยมาก สถิติที่บอกว่าอัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราตายแล้ว เส้นทับกันแล้ว ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้เชิงระบบ จะประกาศและผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ เด็กเกิดอย่างมีคุณภาพ คู่สมรสพร้อมและตั้งใจที่จะมีลูก และเรื่องบุคลากร จะผลักดันให้กระทรวงสาธารณสุขออกจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) มีคณะกรรมการบริหารบุคคลของกระทรวงสาธารณสุข มีกฎหมายบริหารงานบุคคลรองรับ คิดว่าจะปลดเรื่องข้อผูกมัดที่มีลักษณะเสื้อโหลให้กับราชการ ตั้งเป้าจะทำให้ไเภายในปี 2568
"ที่ผ่านมาเมื่อมีนโยบายลดอัตรากำลังข้าราชการ ก็จะกระทบสธ.ด้วย ลดจำนวนคน แต่สธ.ยัง ให้บริการอย่างมาก ขณะที่สธ.มีศักยภาพที่สามารถจ้างงานเองได้ ถ้าตรงนี้สามารถปลดล็อคได้วางเป้าไว้ที่ปี 2568 ก็จะสามารถจัดตั้งมารองรับได้"นพ.ชลน่านกล่าว