รู้จัก ‘Care D +’ ทีมสธ. ที่'นพ.ชลน่าน'ตั้งภรรยามาคุม
ทำความรู้จัก ‘Care D +’ ทีมที่นพ.ชลน่านตั้งพญ.นวลสกุล ภรรยาเป็นที่ปรึกษาและมาดูแล สธ. เตรียมคิกออฟ เพิ่มทักษะการสื่อสารแบบใหม่ให้พยาบาลผู้ป่วยนอก เจ้าหน้าที่งานเผยแพร่และนักประชาสัมพันธ์ กว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ก่อนหน้านี้ กรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข แต่งตั้ง พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ ภรรรยาเป็นที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข
ไม่กินรวบสธ.
นพ.ชลน่าน ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ในมุมผลประโยชน์ทับซ้อนตนเองก็คำนึงถึงเรื่องนี้พอสมควรก่อนการแต่งตั้ง พญ.นวลสกุล เป็นที่ปรึกษา แต่เมื่อมาดูเนื้องาน ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ดูเรื่องความรู้ ความสามารถ จึงตัดสินใจลงทุนในเรื่องนี้ เพราะ 1.ตำแหน่งที่ปรึกษา ไม่ใช่ตำแหน่งข้าราชการการเมือง จึงไม่มีเงินเดือน เป็นคณะทำงานอาสา 2.งานที่ปรึกษามีความจำเพาะ โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารทางการเมืองด้านสุขภาพ
การสื่อสารจะอยู่ในทุกแพลตฟอร์มทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อโซเชียล และสื่อบุคคล เพราะวงการสาธารณสุขเรา สื่อบุคคลมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผู้ป่วยและญาติ จึงให้พญ.นวลสกุลที่มีประสบการณ์สร้างทีมประชาสัมพันธ์ มาดำเนินการทีมCareD+ ซึ่งเป็นหนึ่งQuick Win นอกจากนั้น ก็มาช่วยดูแลเรื่องสวัสกิการดูแลบุคลากรด้วย
“บุคคลที่จะเข้ามาทำงานกับผม ต้องผ่านการคัดกรองจากคุณหมอก้อยพอสมควร พูดง่ายๆ คนที่จะเข้ามาหาผมจะต้องคลีนพอสมควร จึงมั่นใจว่า ประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน ตั้งสามีภรรยามากินรวบ สธ. จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน จะมีแต่กำไรกับประชาชนในมิติสุขภาพ” นพ.ชลน่าน กล่าว
การทำงานของทีม Care D+
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2566 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตรียมความพร้อมเปิดตัว ทีม Care D + ที่เป็นหนึ่งใน Quick Win ที่ต้องทำให้สำเร็จภายใน 100 วัน โครงการนี้เกิดจากความต้องการให้มีทีมประสานใจระหว่างผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาความขัดแย้ง กว่า 90% เกิดจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน การไม่สื่อสาร รวมทั้งขาดเทคนิคในการบริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งทำให้สถานการณ์เล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ในความเป็นจริงเพียงแค่สื่อสารไม่ตรงกันเท่านั้น
Care D + เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ยกระดับ ปรับระบบบริการสาธารณสุข 30Baht + เป็นการปัดฝุ่นโครงการพยาบาลประชาสัมพันธ์ที่เคยมีตั้งแต่ปี 2534 แต่จัดรูปแบบใหม่ เนื่องจากความรู้ด้านการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป มีการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมทั้งการที่ทุกคนสามารถเป็นสื่อได้และสามารถ Share ข้อมูลผ่าน Social Media ได้แบบเรียลไทม์
บางครั้งบริบทของการสื่อสารในขณะนั้นยังเป็นเรื่องของอารมณ์ ความคาดหวังและความรู้สึก ที่มีทั้งความกลัว ความไม่รู้ ปะปนกันอยู่ เมื่อมีสิ่งเหล่านี้สื่อออกไปจึงกลายเป็นปัญหา เป็นความขัดแย้งที่ต้องมาตามแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและเสียเวลา
“ทีม Care D+ คือ ทีมที่จะเข้ามาช่วยสร้างวัฒนธรรมใหม่ ใช้หลักใจเขาใจเรา ทำหน้าที่ประสานใจระหว่าง ผู้ป่วย ญาติ และ บุคลากรสาธารณสุข ให้เกิดความเข้าใจ ลดช่องว่างการสื่อสาร เพิ่มความเข้าใจเห็นอกเห็นใจ และที่มากไปกว่านั้น คือ ความใส่ใจ หรือ Care พร้อมที่จะโอบอุ้ม ดูแลกัน ส่วน D คือ ดีต่อใจ Develop พัฒนาทักษะการสื่อสาร ในธีมแบบง่ายๆ Care for life Share for Love” นพ.ชลน่านกล่าว
เริ่มต้น ทีม Care D+ 10,000 คน
เริ่มต้นจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ เทคนิคการสื่อสารสมัยใหม่ เป็นการ Upskill และ Re-skill นักประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 268 คน เจ้าหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และหน่วยบริการ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 373 คน ก่อน จากนั้นจะขยายผลไปยังพยาบาลวิชาชีพ โดยเฉพาะพยาบาลผู้ป่วยนอกที่มีอยู่ทั้งหมด 10,798 คน
จะมีทั้งการอบรมแบบ on site ในกรณีที่แต่ละเขตสุขภาพทำได้ และการอบรมโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ Virtual online โดยวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารสุขภาพ สื่อสารวิกฤต โดยตรง ทั้งนี้ เชื่อว่า ทีม Care D+ จะเป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความอุ่นใจ ความเชื่อมั่น ให้กับญาติ ผู้ป่วย เป็นอีกหนึ่งของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขจะมอบให้กับประชาชน