เห็นชอบ 2.21 แสนล้านบาท หนุนนโยบาย 30บาท พลัส
สปสช. เห็นชอบงบฯบัตรทองปี 67 กว่า 2.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1.7 หมื่นล้าน พร้อมหนุนนโยบายยกระดับ 30 บาทพลัส
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เข้าร่วมประชุม บอร์ด สปสช. เป็นครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระสำคัญพิจารณาร่างข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และร่างข้อเสนองบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งได้มีการปรับเพิ่มงบประมาณกองทุนฯ รวมเงินเดือนบุคลากร จากเดิม 212,449.82 ล้านบาท เป็น 221,528.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17,388.92 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมได้มีมติความเห็นชอบ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้การพิจารณาของบอร์ด สปสช. ได้เป็นไปตามระเบียบวาระ โดยมีเรื่องสำคัญที่พิจารณาคือ แผนจัดทำงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 ที่ได้มีการปรับแผนตามมติคณะรัฐมนตรี มีการปรับเพดานงบประมาณจากจำนวน 3.35 ล้านล้านบาท จากที่มีการเห็นชอบไปก่อนหน้านี้ เมื่อ 14 มีนาคม 2566 เป็นจำนวน 3.48 ล้านล้านบาท ทำให้ บอร์ด สปสช. ต้องพิจารณาและให้ความเห็นชอบใหม่ และจะมีการนำเสนอต่อ ครม. อีกครั้ง ทั้งภาพรวมของแผนมีการจัดทำอย่างครอบคลุม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และแผนการดำเนินงานกองทุนฯ ที่รวมในส่วนของเงินเดือนเป็นจำนวนกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 3,539 บาทต่อคนต่อปี
ในการจัดทำแผนปรับปรุงงบประมาณนี้ สปสช. ยังได้นำแผน Quick Win ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเป็นนโยบายนำมาประกอบเพื่อสนับสนุนงบประมาณด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแผนดำเนินงานที่วางไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวและว่า ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ สปสช.จ่ายเงินให้หน่วยบริการอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้หน่วยบริการ และให้ประชาชนเข้าถึงด้วยความมั่นใจ
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมทีบอร์ด สปสช. มีมติเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2565 เห็นชอบข้อเสนอคําขอรับงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 212,449.82 ล้านบาท โดยเป็นยอดเงินสด 146,897.20 ล้านบาท ต่อมาคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ย.2566 ได้สั่งการให้ปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ใหม่ ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้น สปสช. จึงได้ปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย โดยคำนึงถึงนโยบายทั้ง 13 ข้อของกระทรวงสาธารณสุข และปรับเพิ่มงบประมาณที่ต้องใช้เพื่อผลักดันนโยบายเหล่านี้ขึ้นอีก 17,388.92 ล้านบาท
สำหรับ งบประมาณที่เพิ่มขึ้น 17,388.92 บาทนี้ แบ่งเป็น บริการเดิมที่ต่อเนื่องจากปี 2566 จำนวน 8,297.23 ล้านบาท บริการเดิมที่เป็นนโยบายของรัฐบาล 6,164.29 ล้านบาท บริการใหม่/สิทธิประโยชน์ใหม่ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล 108.99 ล้านบาท บริการ/สิทธิประโยชน์ใหม่ประจำปี 2567 จำนวน 12.57 ล้านบาท และการปรับใช้ระบบการจ่ายชดเชยค่าบริการแบบ DRG เวอร์ชั่น 6 อีก 2,805.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อเสนองบประมาณฯ ฉบับดังกล่าว โดยได้เน้นย้ำว่าเมื่อมีการปรับเพิ่มงบประมาณขึ้นแล้ว ผลการดำเนินงานจะต้องไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังได้เห็นชอบ ร่างข้อเสนองบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2567 อีกจำนวน 2,086.55 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์